รู้จัก Minchodan กลุ่มผู้หลงใหลมินต์ช็อกโกแลต และโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้น /โดย ลงทุนเกิร์ล

วิธีที่ Ben & Jerry's ใช้กำจัดไอศกรีมเหลือทิ้ง คือการส่งให้เกษตรกร ใช้เป็นอาหารเลี้ยงหมู ซึ่งส่วนใหญ่หมูจะชอบกินทุกรสชาติ เว้นเสียแต่รส “มินต์ช็อกโกแลตคุกกี้”

อย่างไรก็ตาม รสชาติของมินต์ช็อกโกแลต ที่แม้แต่หมูยังเมิน กลับเป็นรสชาติยอดนิยม ของคนบางกลุ่มในประเทศเกาหลีใต้

จนมีชื่อเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “Minchodan” ที่แปลว่า “Mint Chocolate Army” หรือกองทัพของคนที่หลงใหลในรสมินต์ช็อกโกแลตนั่นเอง

แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดกระแส Minchodan ในประเทศเกาหลีใต้
ทั้ง ๆ ที่รสชาตินี้ ก็ถูกคิดค้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

สำหรับเรื่องนี้ ถ้าใครเป็นคอซีรีส์เกาหลี อาจจะเคยได้เห็น “มินต์ช็อกโกแลต” แทรกตัวอยู่ในซีรีส์เรื่องดัง ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็นตัวละครจากซีรีส์ Nevertheless หรือพระเอกจากซีรีส์ Tale of the Nine Tailed ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของรสมินต์ช็อกโกแลต

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้ “ซอฟต์พาวเวอร์” จนประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงในระดับโลก

คำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ หมายถึง การขยายอิทธิพล หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และความคิดของผู้คน โดยที่ไม่ได้ใช้การบีบบังคับ (ฮาร์ดพาวเวอร์)

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า เกาหลีใต้สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมของชาติตัวเอง ผ่านเครื่องมือ อย่างภาพยนตร์ ซีรีส์ อาหาร หรือศิลปิน K-POP

และการที่มินต์ช็อกโกแลตเข้ามาอยู่ในซีรีส์เกาหลีได้ จึงสะท้อนว่า เรื่องนี้กำลังเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศนี้

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของมินต์ช็อกโกแลตอยู่ที่
ส่วนใหญ่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน
คือ กลุ่มที่ชอบมาก ๆ และกลุ่มที่ไม่ชอบมาก ๆ

ซึ่งประเด็นที่ทำให้ มินต์ช็อกโกแลตกลายเป็นข้อถกเถียงที่ดุเดือดขึ้น
ส่วนหนึ่งก็เกิดจาก การที่ศิลปินดารา ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ผ่านสื่อสาธารณะ

โดยอาจคล้ายกับกรณีของบ้านเรา ที่มีการถกเถียงกันว่าจะเรียก “พริกน้ำปลา” หรือ “น้ำปลาพริก”

และสำหรับเรื่องนี้ ก็มีศิลปินชื่อดังจำนวนมาก ที่ออกมาแสดงตัวว่าชื่นชอบมินต์ช็อกโกแลต

ไม่ว่าจะเป็นเหล่าไอดอลอย่าง J-HOPE, Jungkook วง BTS, IU, Kang Daniel ไปจนถึงนางเอกสาว ฮันโซฮี จากเรื่อง Nevertheless

ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้เห็นคนดังในดวงใจ ใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง แล้วออกมาพูดว่าดี
บรรดาแฟนคลับก็จะรีบพุ่งตัวไปซื้อตาม หรือเวลาได้เห็นตัวละครในซีรีส์ทำอะไร เราก็อยากจะทำตามบ้าง

ทั้งหมดนี้ จึงทำให้กระแสของมินต์ช็อกโกแลตค่อย ๆ ก่อตัว และมีให้พบเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Z และคนกลุ่มมิลเลนเนียลส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสพสื่อบันเทิงและใช้โซเชียลมีเดียเป็นประจำอยู่แล้ว

จนกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ก่อให้เกิด Minchodan ขึ้นนั่นเอง

เมื่อมีกระแสในโซเชียลเกิดขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ ก็เริ่มใช้โอกาสนี้ออกสินค้า เพื่อให้เข้ากับกระแส Minchodan ที่กำลังเกิดขึ้น

โดยเฉพาะในปี 2021 ที่ผ่านมา ก็มีหลาย ๆ แบรนด์ ที่เข้าร่วมขบวนการนี้

เริ่มจาก LOTTE ก็เปิดตัวขนมบิสกิต รสมินต์ช็อกโกแลต และได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี ทำยอดขายถึง 300,000 ห่อ ภายในเดือนเดียว

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว สินค้านี้เคยปล่อยออกมาแล้วในปี 2013 แต่ผลลัพธ์กลับไม่ดี จนต้องเลิกจำหน่ายไป

ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จจากบิสกิตแล้ว บริษัทก็ไม่ได้รอให้กระแสซาลง ตัดสินใจรีบออกสินค้าอื่น ที่เป็นรสมินต์ช็อกโกแลต อีกถึง 3 ประเภทตามมาในเวลาไม่นาน

ต่อมา Haitai Confectionery and Foods ก็ออก Minty Oh Yes ขนมเค้กรสมินต์ช็อกโกแลต

โดยบริษัทเปิดเผยว่า รสชาตินี้เกิดขึ้นจากผลการโหวต ว่าต้องการให้บริษัทออกขนมรสชาติไหน และผลลัพธ์ที่ได้คือ มินต์ช็อกโกแลต นั่นเอง

แสดงถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตร Minchodan ได้เป็นอย่างดี

อีกบริษัทที่เข้ามาร่วมในกระแสนี้ คือบริษัท Orion เจ้าของขนมช็อกโกพายกล่องสีแดง ที่ได้หยิบเอา 4 แบรนด์ขนมขายดี มาปรับให้เป็นรสมินต์ช็อกโกแลต และขายในเวลาจำกัด

ที่น่าสนใจคือ ขนมทั้งหมดในรสชาติพิเศษนี้ ขายได้ถึง 36 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น

และไม่ได้มีแค่บริษัทขนมเท่านั้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในกระแส Minchodan

เพราะเครื่องดื่มอย่าง โซจู ก็มีรสมินต์ช็อกโกแลต ที่ขายได้ถึงหลักล้านขวด ภายใน 3 สัปดาห์เช่นกัน โดยเจ้าของผลงานนี้ก็คือ แบรนด์โซจู Muhak

รวมถึงเชนร้านกาแฟระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์ ที่เข้าร่วมด้วยการออกเครื่องดื่มมินต์ช็อกโกแลตปั่น ที่ขายได้ 500,000 แก้ว ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์

เรียกได้ว่า ไม่ว่าอะไรจะออกมาเป็นมินต์ช็อกโกแลต ก็น่าจะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ไปเสียทั้งหมด

ตอกย้ำด้วยข้อมูลจาก Emart แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของเกาหลีใต้ ที่เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าที่เกี่ยวกับมินต์ช็อกโกแลต ครึ่งปีแรกของปี 2021 เติบโตถึง 436% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

และอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงเป็น เหล่าร้านค้าที่เกาะขบวน จนบางอย่างก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ เช่น ไก่ทอดราดซอสมินต์ช็อกโกแลต

ซึ่งแม้เราจะไม่แน่ใจว่า สรุปแล้วรสชาติจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่รับรองว่า อย่างน้อยร้านนั้น จะต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ไม่น้อย
ที่สำคัญยังดังไกลจนข้ามประเทศ จนกลายเป็นไวรัลในประเทศไทยบ้านเรา อยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้ ก็คงเป็นกรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดว่า
ความสำเร็จ บางทีก็ขึ้นอยู่กับ “ความเร็ว”
ที่ธุรกิจจะสามารถปรับตัวหรือออกสินค้า/บริการ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสสังคมในตอนนั้นได้หรือไม่

แต่ก็ต้องเร็วอย่าง “ถูกที่ถูกเวลา”

เพราะมีให้เห็นแล้วว่า ถ้าเร็วไปอย่าง LOTTE
ที่เคยออกสินค้ารสมินต์ช็อกโกแลตมาก่อนกระแสจะเกิดขึ้น ก็ไม่สำเร็จได้เช่นกัน
ยังดีที่เมื่อโอกาสมาถึง LOTTE ก็สามารถคว้าได้ทัน
และนำสิ่งที่เคยล้มเหลวไป กลับมาแก้เกมได้อีกครั้ง..

References:
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210603000986&ACE_SEARCH=1
-https://www.econotimes.com/Mint-Chocolate-is-the-newest-fad-in-S-Korea-and-businesses-are-all-in-the-trend-1610122
-https://koreajoongangdaily.joins.com/2021/07/31/business/industry/mint-chocolate-mincho-summer/20210731070114659.html
-https://www.econotimes.com/Mint-chocolate-boom-sweeps-Korea-1610077
-https://www.soompi.com/article/1352090wpp/idols-who-have-taken-a-side-in-debate-over-mint-chocolate
-https://www.korea.net/AboutKorea/Culture-and-the-Arts/Hallyu
-https://martinroll.com/resources/articles/asia/korean-wave-hallyu-the-rise-of-koreas-cultural-economy-pop-culture/
-https://koreajoongangdaily.joins.com/2021/05/19/business/industry/millennials-GenZ-GenX/20210519183800367.html