กรณีศึกษา Jujutsu Kaisen การ์ตูนขายดีสุดในประเทศญี่ปุ่น ปีที่แล้ว /โดย ลงทุนเกิร์ล

“6,800 ล้านบาท” คือ ตัวเลขรายได้ของ Jujutsu Kaisen 0 ภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่พุ่งขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 10 ภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่น ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ร่วมกับการ์ตูนรุ่นพี่อย่าง One Piece, Dragon Ball และ Conan

นอกจากนั้น มังงะ หรือ หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้
สามารถทำยอดขายได้มากสุดในประเทศญี่ปุ่น ในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว

แม้ว่า Jujutsu Kaisen จะเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
แต่สามารถขึ้นมาเทียบเคียงการ์ตูนรุ่นพี่ระดับตำนาน ได้อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เรามาเริ่มจากตัวผู้เขียนกันก่อน
ซึ่งก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อราว 20 ปีก่อน ณ จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น

เกเงะ อากูตามิ เป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในการอ่านมังงะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เขาจึงได้เริ่มลองวาดการ์ตูนเลียนแบบหน้าตาของเพื่อนเขาขึ้นมา

ในเวลาต่อมาจึงเกิดเป็นความชื่นชอบ
ซึ่งท้ายที่สุด เขาก็ได้เดินหน้าเข้าสู่เส้นทางนักเขียนการ์ตูนมืออาชีพอย่างเต็มตัว

ก่อนหน้าที่จะกลายมาเป็นการ์ตูนขายดีสุดในญี่ปุ่นปีที่แล้ว
เขาได้เขียนมังงะมา 5 เรื่อง ในช่วงระยะเวลา 4 ปี

จนมาถึงมังงะเรื่องปัจจุบัน ที่ได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ชูเอชะ
มีชื่อเรื่องว่า Jujutsu Kaisen หรือในชื่อภาษาไทยว่า “มหาเวทย์ผนึกมาร”

แล้ว มหาเวทย์ผนึกมาร มีเนื้อเรื่องอย่างไร ?

มหาเวทย์ผนึกมารนั้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มชาวเมืองเซ็นไดวัย 15 ปีคนหนึ่ง ชื่อว่า “อิตาโดริ ยูจิ” ที่ได้บังเอิญไปเจอกับวัตถุต้องสาปปิดผนึก ภายในศาลเจ้าที่โรงเรียน จึงนำวัตถุดังกล่าวมาให้รุ่นพี่ที่ชมรม

คืนนั้น พวกรุ่นพี่ก็ได้แกะผนึกออกมา จนทำให้วิญญาณคำสาปมากมายหลุดออกมาทั่วโรงเรียน
เมื่อยูจิมาถึง จึงได้ทำการต่อสู้กับวิญญาณคำสาป และช่วยรุ่นพี่ที่กำลังจะถูกวิญญาณคำสาปเล่นงาน

แต่ด้วยตัวของยูจิเองที่เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีพลังวิเศษอะไร
ต่อให้มีแรงกายเยอะแค่ไหน ก็ไม่อาจต่อสู้กับวิญญาณคำสาปได้

ยูจิจึงได้กลืนวัตถุต้องสาปชิ้นนั้นเข้าไป จนทำให้ได้รับพลังไสยเวทขั้นสูง และได้ใช้พลังที่มี กำจัดวิญญาณร้ายให้หายไป

แต่นั่นก็ทำให้ยูจิต้องกลายมาเป็น “ครึ่งคน ครึ่งคำสาป” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของมังงะเรื่องนี้

ด้วยความที่มังงะมหาเวทย์ผนึกมาร มีเนื้อหาแปลกแหวกแนว
บวกกับแครักเตอร์ที่น่าสนใจของตัวละคร ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
จนเริ่มทำให้ผู้อ่านหลายคนพูดถึงกันเป็นวงกว้าง

กว้างในระดับที่ เดิมเป็นเพียงการ์ตูนสั้น 4 ตอนจบ
แต่กลับฮิต จนต้องถูกนำมาเขียนต่อ เป็นมังงะรายสัปดาห์

ต่อมา มหาเวทย์ผนึกมาร ได้ถูกนำมารวมเล่ม ตามมาด้วยอานิเมะ ก่อนจะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่ฉายในโรงภาพยนตร์

ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 2 ปี เท่านั้น

โดยมังงะรวมเล่มของมหาเวทย์ผนึกมารเล่มแรก สามารถทำยอดขายไปได้อย่างถล่มทลายที่ 2.5 ล้านเล่ม จนเกิดปรากฏการณ์ของขาดตลาดในญี่ปุ่น ถึงขนาดต้องจำกัดการซื้อได้เพียงคนละ 1 เล่มเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้สตูดิโออย่าง MAPPA ที่มีผลงานชิ้นโบแดง เช่น Attack On Titan The Final Season เข้ามากำกับแอนิเมชันให้อีกด้วย

ทำให้หลังจากแอนิเมชันเรื่องนี้ถูกฉายออกไป ก็ได้ทำให้มังงะเรื่องนี้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นไปอีก จนมีการประกาศว่า ยอดขายมังงะรวมเล่ม ทะลุ 50 ล้านเล่มไปแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน

และภายหลังจากการเรียกร้องของแฟนคลับ พร้อมทั้งกระแสตอบรับที่ดีจากการที่นำมาฉายใน Netflix จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่อง Jujutsu Kaisen 0 ที่กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย สูงถึง 6,800 ล้านบาท ขึ้นแท่นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่นรายได้สูงสุดตลอดกาล

แล้วภาพรวมธุรกิจการ์ตูนในญี่ปุ่น เป็นอย่างไรบ้าง ?

หลายคนอาจจะคิดว่าธุรกิจหนังสือ เป็นธุรกิจขาลงไปแล้ว
แต่หากเรามาดูจากยอดขาย “หนังสือการ์ตูน” ในประเทศญี่ปุ่น 5 อันดับแรกรวมกัน

ปี 2017 จำนวน 35.5 ล้านเล่ม
ปี 2021 จำนวน 99.7 ล้านเล่ม

จะเห็นว่ามีแนวโน้มเติบโตเป็นเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
สวนทางกับธุรกิจสำนักพิมพ์ และธุรกิจหนังสือประเภทอื่น ๆ แบบขาดลอย

ในปี 2021 การ์ตูนที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับแรกในญี่ปุ่นได้แก่

-Jujutsu Kaisen ทำยอดขาย 30.9 ล้านเล่ม
-Kimetsu no Yaiba ทำยอดขาย 29.5 ล้านเล่ม
-Tokyo Revengers ทำยอดขาย 25.0 ล้านเล่ม

จะเห็นได้ว่า Jujutsu Kaisen เป็นการ์ตูนอันดับ 1 ในญี่ปุ่น
โดยมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 460%

อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น กำลังเติบโตอย่างโดดเด่น แถมยังเป็นการเติบโตจากการมีดวงดาวหน้าใหม่ เข้ามาเติมเต็มอุตสาหกรรมนี้อยู่ตลอดเวลา

ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาเป็นมหาเวทย์ผนึกมาร เราก็คงได้เห็นความสำเร็จของดาบพิฆาตอสูรมาแล้ว

เรื่องราวทั้งหมด ก็ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

แม้ว่าเราจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แถมในอุตสาหกรรมเดิมต่างเต็มไปด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว อย่างในกรณีของมังงะ ก็มีแบรนด์ระดับตำนานอย่าง One Piece, Dragon Ball, Naruto และ Conan

แต่หากเราสามารถผลิตสิ่งที่ดึงดูดฐานแฟนคลับในอุตสาหกรรม และสามารถสร้างแครักเตอร์ที่แตกต่างได้

โลกในวันนี้ที่มีเทคโนโลยีทุกอย่างพร้อม

ก็สามารถผลักดันให้เราประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ ได้เหมือนกัน..

Sponsored by JCB

เอกสิทธิ์สไตล์ญี่ปุ่นเหนือระดับกับบัตรเครดิต JCB สามารถติดตามข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งเกร็ดความรู้จากประเทศญี่ปุ่น และสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต JCB ได้ www.facebook.com/JCBCardThailandTH และ LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)

#JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา #JCBThailand #JCBOwnHappinessOwnStory

References:
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2022-05-30/jujutsu-kaisen-0-film-ends-japanese-theatrical-run-earning-13.75-billion-yen/.18616
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2017-12-06/top-selling-manga-in-japan-by-series-2017/.124894
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2018-11-29/top-selling-manga-in-japan-by-series-2018/.140163
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2019-11-27/top-selling-manga-in-japan-by-series-2019/.153758
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2020-11-29/top-selling-manga-in-japan-by-series-2020/.166841
-https://www.animenewsnetwork.com/news/2021-11-28/top-selling-manga-in-japan-by-series-2021-jujutsu-kaisen-edges-out-demon-slayer/.180075
-https://www.youtube.com/watch?v=A12Tndyrc8Q
-https://th.wikipedia.org/wiki/มหาเวทย์ผนึกมาร_0
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_Japanese_films