รู้จัก KAWS ศิลปินพ็อปอาร์ตจากอเมริกา ที่คอลแลบกับแบรนด์ไหน ก็ขายดี /โดย ลงทุนเกิร์ล

หลายคนคงเคยเห็นแครักเตอร์แนวสตรีตอาร์ต ที่มีนัยน์ตารูปกากบาท ปรากฏอยู่กับสินค้าต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็น Dior, LOUIS VUITTON, Nike, Supreme, LEGO, BE@RBRICK, Kiehl’s และอีกมากมาย

เบื้องหลังผลงานเหล่านี้ คือ “KAWS” (ควอส์) ศิลปินกราฟฟิตีชาวอเมริกัน ที่สร้างผลงานฮิตไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

อย่างล่าสุด “KAWS X Uniqlo” ก็เกิดปรากฏการณ์ต่อแถว จนทางร้านต้องตั้งกฎจำกัดการซื้อ 2 ตัวต่อคนต่อลาย ไว้ล่วงหน้า

ทำไมแครักเตอร์นี้ ถึงได้รับความนิยม จนมีคนอยากครอบครองมากมาย
จนเรียกได้ว่าเป็นศิลปินที่คอลแลบกับแบรนด์ไหนก็ปัง ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

“ไบรอัน ดอนเนลลี (Brian Donnelly)” คือชื่อจริงของ “KAWS” (ควอส์) ศิลปินและนักออกแบบกราฟฟิตีชาวอเมริกัน วัย 49 ปี

เขาจบปริญญาตรีด้าน Fine Arts และการวาดภาพประกอบจาก School of Visual Arts ในนิวยอร์กมาโดยตรง

ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ เขาเริ่มต้นมาจากการเป็นศิลปินกราฟฟิตีตามท้องถนนในนิวยอร์กซิตี มาก่อนในช่วงปี 1990

จุดที่ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่รู้จัก คือการนำภาพหัวกะโหลก มาครีเอตในรูปแบบต่าง ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์

โดยเฉพาะแครักเตอร์ที่ชื่อว่า "Companion" หรือ “สหาย” ที่มีเอกลักษณ์คือนัยน์ตาเป็นรูปกากบาท

ซึ่งควอส์ ตั้งใจแสดงถึงบุคลิกที่อ่อนแอ ที่ซ่อนอยู่ในตัวของทุกคน เพื่อท้าทายบรรทัดฐานและความคาดหวังทางสังคม จนกลายเป็นซิกเนเชอร์ของควอส์มาจนถึงทุกวันนี้

ด้วยแครักเตอร์ที่โดดเด่น ประกอบกับการเน้นสื่อสารด้วย “ภาพ” ที่เป็นสากล ทำให้คนเข้าใจความรู้สึกได้แบบไม่มีกำแพงทางภาษา

เมื่อรวมกับฝีมือในแง่ของการดิไซน์ ทั้งลายเส้น สีสัน ก็นับว่างานศิลปะที่ผสมระหว่าง Fine Arts และ Pop Culture ได้ลงตัว

ทำให้ใคร ๆ ก็เข้าถึงผลงานได้ไม่ยากจนเกินไป และสามารถดึงดูดผู้ชมหลายกลุ่มจากทั่วทุกมุมโลก

อย่างไรก็ตาม แรงส่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของควอส์ โด่งดังในระดับโลกจนถึงทุกวันนี้ คือการ “ใช้งานศิลปะในเชิงพาณิชย์”

-พลังของ Collaboration

การ Collaboration กับแบรนด์ดังต่าง ๆ ทำให้ควอส์ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ จากฐานลูกค้าของแบรนด์นั้น ๆ
ซึ่งก็ส่งผลให้ควอส์ ยิ่งกลายเป็นที่หมายตาของสารพัดแบรนด์เข้าไปอีก

จุดเด่นของควอส์คือ ความสามารถในการดึง “แครักเตอร์ของแบรนด์” มาตีโจทย์ให้เข้ากับ “แครักเตอร์ของควอส์” ออกมาเป็นคอลเลกชันพิเศษ ที่พิเศษจริง ๆ

เช่น บางครั้งก็ดิไซน์ให้ลายเส้นดูเหมือนมีขนนุ่มฟู บางครั้งก็เห็นตับไตไส้พุง บางครั้งก็สวมบทบาทเป็นการ์ตูนดัง

จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกครั้งที่มีการคอลแลบ ทั้งแฟนคลับของควอส์ และสาวกของแบรนด์สินค้านั้น ๆ ก็ต่างให้ความสนใจ จนกลายเป็นกระแส และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อสินค้าที่ร่วมคอลแลบมีความต้องการสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้สินค้าธรรมดา ๆ ถูกยกระดับเป็นของสะสม ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากซื้อเก็บ หรือบางครั้งถึงขั้นซื้อไว้เก็งกำไรได้ด้วย

เช่น ฟิกเกอร์ KAWS Star Wars Darth Vader Companion ที่ร่วมกับ Star Wars ที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 26,481 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 939,000 บาทต่อชิ้น

หรือแม้แต่การคอลแลบครั้งล่าสุดที่ KAWS ร่วมกับ Uniqlo ออกแบบเสื้อยืดคอลเลกชันพิเศษ ที่แม้จะเคยร่วมมือกันไปแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อน

แต่ก็ยังได้รับการตอบรับดีไม่แพ้ครั้งแรก เพราะเสื้อคอลเลกชันใหม่นี้ ก็แตกต่างจากครั้งที่ผ่าน ๆ มา จนคนที่เคยซื้อไปเมื่อครั้งที่แล้ว ก็ไม่อยากพลาดนั่นเอง

เรียกได้ว่าการคอลแลบของ KAWS และแบรนด์ต่าง ๆ ก็เป็นกลยุทธ์แบบ Win-Win

ทั้งฟากของแบรนด์ที่จุดกระแส เพิ่มยอดขายได้
ส่วนฟากของศิลปิน ก็ได้โชว์ฝีมือที่เป็นสะพานให้คนรู้จักมากขึ้น

หรือแม้แต่แฟน ๆ นักสะสม ก็ได้ของที่ชอบไปเก็บไว้ให้ชื่นใจ หรือขายต่อได้ เมื่อมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย

-ทำให้ผู้คน มีประสบการณ์ร่วมกับงานศิลปะ

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของควอส์ คือ การนำเสนองานศิลปะผ่าน “ประติมากรรมขนาดยักษ์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการที่จัดมาแล้วในหลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์, สเปน, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา

หรือที่เป็นไวรัลเมื่อปี 2019 ที่ให้เจ้า Companion ขนาด 37 เมตร นอนหงายมองท้องฟ้า ลอยอยู่กลางอ่าววิคตอเรีย ของฮ่องกง

แม้แต่ประเทศไทยก็เคยมีโมเดล Companion สีน้ำเงินสด สูง 8 เมตร ยืนเด่นอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า Central Embassy ในปี 2016 เช่นกัน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการนำเสนอผลงานด้วยวิธีนี้ สามารถสร้างความสนใจและสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ชมได้

ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ แชร์ภาพต่อ หรือการพูดถึง บอกต่อ ทำให้ใคร ๆ ก็ตามที่ได้ชมผลงาน ก็ได้รู้จักควอส์ไปแบบอัตโนมัติ แม้จะไม่ใช่แฟนตัวยง

ทั้งฝีมือด้านศิลปะ และการประยุกต์ใช้ผลงานในเชิงพาณิชย์ กับแบรนด์ต่าง ๆ ได้ดี
นับเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของควอส์ ที่ทำให้แครักเตอร์ของควอส์ไม่เคยตกยุค แม้จะผ่านมานานกว่า 20 ปี

จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคอลแลบกับแบรนด์ไหน ก็ขายดี
และกลับมาฮิตทุกครั้งที่มีผลงานใหม่ ๆ ออกมา
ซึ่งน้อยคนที่จะทำได้ในระดับโลก..

References:
-https://insights.masterworks.com/art/artists/who-is-kaws/
-https://www.1st-art-gallery.com/article/unveiling-the-enigma-key-facts-to-understand-kaws-art/#:~:text=Kaws%20draws%20inspiration%20from%20popular,of%20consumerism%20and%20mass%20media.
-https://owity.com/blogs/owity-blog/why-kaws-figures-are-so-popular-art-toys#:~:text=It's%20all%20about%20demand%2C%20the,compared%20to%20Kaws%20traditional%20artwork.
-https://stockx.com/news/the-most-expensive-kaws-figures-in-stockx-history/
-https://bk.asia-city.com/city-living/news/meet-artist-behind-giant-blue-cartoon-character-lighting-bangkokians-instagrams
-https://news.artnet.com/art-world/kaws-what-party-brooklyn-museum-1948026
-https://style.katexoxo.com/kaws-5-%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-2020/
-https://edition.cnn.com/style/article/kaws-holiday-hong-kong-art/index.html
-https://sneakernews.com/2021/12/07/kaws-sacai-nike-blazer-low-purple-dusk-dm7901-500-release-date/