รู้จัก Igloo Studio บริษัทแอนิเมชัน ของคนไทย ฝีมือระดับโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าใครมีโอกาสเห็นโฆษณาเครื่องดื่มของ “Malee in Season” แบบผ่านๆ
อาจคิดว่าเป็นตัวอย่างภาพยนตร์แอนิเมชันญี่ปุ่นเรื่องใหม่ ด้วยสี ลายเส้น และการเล่าเรื่อง
แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบรายละเอียดฉากหลัง ว่าเป็นโลเคชันในเมืองไทยชัดๆ
อย่างเสาไฟฟ้าที่มีสายไฟฟ้าระโยงระยาง หรือแม้แต่กระเบื้องฟุตพาท ที่เหยียบแล้วน้ำกระเด็น 

แล้วใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นนี้? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง 

การเก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้ขนาดนี้ 
คงไม่น่าแปลกใจนักถ้าจะบอกว่าเป็นฝีมือของคนไทย สร้างโดย Igloo Studio

สำหรับเด็กสายอาร์ต อาจจะไม่ต้องพูดมาก 
เพราะ Igloo Studio ถือเป็นบริษัทที่หลายคนใฝ่ฝันอยากร่วมงานด้วย

แต่สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นกับชื่อ Igloo Studio
เราอาจจะต้องย้อนไปถึงหนังเรื่อง “๙ ศาสตรา” แอนิเมชันฝีมือคนไทย 
ที่กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลอยู่ช่วงหนึ่ง
โดยหนึ่งในทีมผู้สร้างหนังเรื่องนี้ก็คือ บริษัท Igloo Studio นั่นเอง

ดูเพียงแค่ 2 ผลงานนี้ ก็อาจจะสัมผัสได้แล้วว่า 
Igloo Studio เป็นบริษัทที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

แล้วเรื่องราวของ Igloo Studio น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ

เรามาทำความรู้จักกับบริษัท Igloo Studio กันก่อนนะคะ

บริษัท Igloo Studio ก่อตั้งเมื่อปี 2549 โดย คุณณัฐ ยศวัฒนานนท์ 

คุณณัฐ จบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
อย่างไรก็ตาม เขากลับเลือกอาชีพที่ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เรียนมา

เนื่องจากคุณณัฐ รู้สึกเบื่อกับการออกแบบ และสร้างบ้านตามแบบที่คนอื่นต้องการ
โดยเขาอยากสานฝันในวัยเด็กที่เขาชอบอ่านการ์ตูน ดูแอนิเมชัน และเล่นวิดีโอเกม 

ที่สำคัญคือ เขาอยากสร้างผลงานที่เกิดจาก “ทรัพย์สินทางปัญญา” ของตัวเขาเอง

ดังนั้นคุณณัฐ จึงตัดสินใจเปิดบริษัท Igloo Studio 
เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคอนเทนต์บนสื่อดิจิทัล 

Igloo มีความหมายว่า “กระท่อมน้ำแข็ง” ที่อยู่อาศัยของชาวเอสกิโม 

ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากตอนคุณณัฐ เริ่มก่อตั้งบริษัทใหม่ๆ และมีทีมงานไม่ถึง 9 คน
ด้วยจำนวนสมาชิกที่น้อยนิด บวกกับแอร์ที่คุณภาพดีเกินคาด
ทำให้บรรยากาศห้องทำงานดูหนาวจัดเหมือนอยู่ขั้วโลก 
พวกเขาจึงเปรียบตัวเองเป็น “ชาวเอสกิโม” ที่อาศัยอยู่ใน “กระท่อมน้ำแข็ง” แห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระท่อมน้ำแข็งนี้ได้ขยายใหญ่ขึ้นแล้ว 
โดยตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 70 คน 

กลับมาที่เรื่องเส้นทางอาชีพของคุณณัฐ.. 

แม้ว่าอาชีพที่คุณณัฐเลือกเดินจะไม่ตรงกับสิ่งที่เขาเรียนมา
แต่คุณณัฐก็ไม่ทิ้งความเป็น สถาปนิก ไปเสียทั้งหมด 

เขาได้นำเอาแนวคิด “การออกแบบบ้านหนึ่งหลัง” มาใช้ที่ Igloo Studio 

เริ่มจากดูว่า งานชิ้นนี้จะนำเสนอให้กับใคร 
เหมือนดูว่า สร้างบ้านไปให้ใครอยู่ คนเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่อย่างไร และอะไรถึงจะเหมาะสมกับพวกเขาที่สุด

ดังนั้นบริษัทจะเน้นการรีเสิร์ช และหาที่มาที่ไปของแต่ละโปรเจกต์อย่างลึกซึ้ง

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Igloo Studio มีวัฒนธรรมองค์กร
ที่ช่วยส่งเสริมให้ทีมงานมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

รวมถึงกิจกรรมที่ให้คนในบริษัทมาแชร์ความรู้ 
และถ่ายทอดเทคนิคที่ตัวเองถนัดให้คนอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่งานออกแบบเท่านั้น 
แต่มีทั้งการสอนย้อมผ้าบาติก เดินป่า หรือแม้แต่ศิลปะป้องกันตัว 
เพื่อช่วยกระตุ้นคนในทีม ให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และไอเดียใหม่ๆ 

อย่างทีมอาร์ต สมาชิกจะมีการนำเสนอและเบรนเบรนสตรอมกันเป็นปกติ
นอกจากนั้นนอกเวลางาน ก็มีการจัดกิจกรรมภายในบริษัท อย่าง “Art Challenge” เพื่อให้ทีมงานได้พัฒนาทักษะและจินตนาการของตัวเองอยู่เสมอ

เห็นแนวทางการทำงานของ Igloo Studio แล้ว 
เรามาดูกันสิว่ามีผลงานเจ๋งๆ ไหนเป็นของบริษัทนี้บ้าง

ผลงานของ Igloo Studio มีตั้งแต่โฆษณาสินค้าแบรนด์ดัง
เช่น ฟาร์มเฮาส์ เซเว่น โทฟุซัง

ซึ่งแต่ละงานก็เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ  
เพราะคุณณัฐ มักจะแทรกความเป็นไทยลงไปในงานด้วยเสมอ 
แต่ก็ไม่ยัดเยียดจนเกินไป จึงทำให้งานที่ออกมาดูลงตัว

กลายเป็นจุดเด่นหลักของ Igloo Studio
ที่ต้องการจะสร้าง Original Content หรือ “ผลงานต้นฉบับ”
ซึ่งไม่เหมือนใคร และพยายามเป็นคนแรกที่นำเสนองานนั้นๆ

และด้วยการนำเสนอที่แปลกใหม่และน่าสนใจนี้ 
ทำให้คนที่ได้รับชมเลือกที่จะไม่กดข้าม และอาจถึงขั้นดูจนจบ

ทั้งหมดนี้จึงไม่น่าแปลกใจว่า Igloo Studio 
จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านของรายได้

ผลประกอบการของบริษัท อิ๊กลู สตูดิโอ จำกัด

ปี 2559 รายได้ 5.3 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 30.0 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 24.9 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 35.5 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของคุณณัฐ ไม่ได้หยุดแค่ความสำเร็จในประเทศเท่านั้น 
เขาต้องการสร้างงาน Original Content ที่สามารถไปสู่ตลาดโลกได้ 

ซึ่งที่ผ่านมา Igloo Studio ก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับศิลปินดังระดับโลกหลายต่อหลายคน 

อย่างผลงานล่าสุดได้ทำแอนิเมชันใน MV “KIDS SEE GHOSTS” 
ของ Kanye West และ Kid Cudi สองแร็ปเปอร์ชื่อดัง 
ร่วมกับ Takashi Murakami ศิลปินชื่อดัง 
ผู้สร้างตัว Murakami Flower ที่โด่งดังเป็นกระแสไปทั่วโลก

อ่านมาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่าฝีมือคนไทย ก็มีคุณภาพไม่แพ้ต่างชาติเลย 
ไม่เพียงแค่ Igloo Studio เท่านั้น 
แต่ในอุตสาหกรรมแอนิเมชันระดับโลก หลายๆ งานก็มีทีมคนไทยอยู่เบื้องหลัง 
ที่สำคัญยังเป็นผลงานที่การันตีด้วยรางวัลจำนวนมากอีกด้วย เช่น 

ภาพยนตร์แอนิเมชัน Frozen จากค่าย Disney
หนึ่งในทีมงานฝ่าย Story Artist ก็คือ คุณฝน-วีรสุนทร

หรือเรื่อง Spider-Man: Into the Spider-Verse 
ก็มีคุณคุณเซ้ง-ธนาวัต ที่เป็นหนึ่งในทีมงานของ Sony Pictures Imageworks 

จะว่าไปแล้วความสามารถของคนไทย 
ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยนะคะ.. 

References: 
-https://adaymagazine.com/founder-nat-igloo-studio/
-https://www.brandage.com/article/11826/Igloo-Studio-HP
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า