
Business
รู้จัก Spark แพลตฟอร์มดิลิเวอรี ของ Walmart หมัดเด็ดที่ใช้ปะทะ Amazon
2 พ.ค. 2025
รู้จัก Spark แพลตฟอร์มดิลิเวอรี ของ Walmart หมัดเด็ดที่ใช้ปะทะ Amazon /โดย ลงทุนเกิร์ล
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดค้าปลีกของสหรัฐฯ ร้อนระอุจากการแข่งขันระหว่างสองยักษ์ใหญ่ระดับโลก
Amazon เจ้าแห่งอีคอมเมิร์ซและบริการคลาวด์Walmart เชนค้าปลีกดั้งเดิมที่อยู่คู่ชาวอเมริกันมานาน
หากเทียบตัวเลขที่น่าสนใจของทั้งสองบริษัท ในปี 2024
Amazon รายได้ 22 ล้านล้านบาทWalmart รายได้ 23 ล้านล้านบาท
แต่เมื่อเจาะลึกถึงตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ
Amazon ครองสัดส่วน 41%Walmart ครองสัดส่วนเพียง 9%
ซึ่งนักลงทุนหลายคนคาดว่า ในปีนี้ Amazon อาจจะมีรายได้แซง Walmart ขึ้นมา
แต่บ้างก็ว่าธุรกิจดิลิเวอรีของ Walmart ที่ชื่อว่า “Spark” ก็กำลังโตแรงแซงโค้ง และน่าสนใจไม่แพ้กัน
แต่บ้างก็ว่าธุรกิจดิลิเวอรีของ Walmart ที่ชื่อว่า “Spark” ก็กำลังโตแรงแซงโค้ง และน่าสนใจไม่แพ้กัน
โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา Spark สามารถส่งมอบสินค้าสูงถึง 5,000 ล้านรายการภายในวันเดียว นับเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2023 และในบางพื้นที่ยังจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่า Amazon อีกด้วย
แล้วเรื่องราวของ Spark เป็นอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Spark ต้องย้อนไปในปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่คุณ Doug McMillon เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง CEO ได้ไม่นาน
เขาได้เริ่มทดลองระบบ “การซื้อของชำออนไลน์” ในสาขาเมืองเดนเวอร์ โดยให้ลูกค้าสั่งซื้อของชำทางออนไลน์และมารับของที่ลานจอดรถของร้านค้า
จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาระบบนี้ ด้วยการร่วมมือกับบริษัทบริการขับรถเช่น Uber และ Lyft เพื่อเพิ่มบริการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงบ้าน
อย่างไรก็ตามการร่วมมือกับบริษัทอื่นทำให้ Walmart มีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังมีการดำเนินงานที่ซับซ้อน
ส่งผลให้ในปี 2018 Walmart เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดส่งสินค้าของตัวเองในชื่อ “Spark”
โดยมีวิธีการทำงานคือ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อจาก Walmart ทางออนไลน์ คำสั่งซื้อจะถูกนำเสนอให้กับคนขับอิสระ (Independent Contractors) ผ่านแอปฯ Spark Driver เพื่อรับงานจัดส่งสินค้าจากร้านไปยังหน้าบ้านลูกค้า
ด้วยระบบนี้ช่วยให้ Walmart สามารถขยายบริการจัดส่งในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด
ซึ่งในช่วงเวลา 7 ปี ตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการ Spark จนถึงปัจจุบัน
Walmart ก็ได้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
Walmart ก็ได้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
ขยายพื้นที่การบริการจัดส่งภายในวันเดียว จากเดิมเมื่อปี 2023 ที่มีบริการจัดส่งเร่งด่วนคิดเป็น 76% ของครัวเรือนในสหรัฐฯ แต่ในปัจจุบันเพิ่มเป็น 93%
รวมถึงขยายบริการจัดส่งไปยังเมืองเล็ก ๆ เช่น เมืองเทรนตัน ที่แม้จะมีประชากรเพียง 815 คน ก็สามารถใช้บริการ Spark ได้
พัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ว่าบริการจัดส่งจะครอบคลุมระยะทางได้ไกลที่สุดแค่ไหน โดยไม่ทำให้ของเน่าเสีย หรือทำให้คนขับต้องหงุดหงิดมีการออกแบบแผนการจัดส่ง เมื่อผู้ขับรับคำสั่งซื้อมากกว่าหนึ่งรายการ โดยคำสั่งซื้อรายการแรกจะอยู่ในกระโปรงท้ายรถ, รายการที่สองอยู่ในเบาะหลัง และรายการที่สามอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ทั้งนี้เพื่อลดความผิดพลาดในการจัดส่งที่อาจเกิดขึ้นได้
และหนึ่งในจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้ Spark นั่นก็คือ การคิดราคาสินค้าเท่ากัน ไม่ว่าผู้คนจะสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ หรือมาซื้อสินค้าด้วยตนเองในร้าน Walmart
ขณะที่ทางด้านคนขับ Spark ก็สามารถสมัครทำงานผ่านแอปฯ Spark Driver ได้อย่างสะดวก โดยต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและมีรถส่วนตัว ผ่านเกณฑ์ที่ Walmart กำหนด
ซึ่ง Spark ยังมีฟังก์ชันตัวเลือกให้คนขับเลือกรับงานแบบที่ตนถนัด เช่น
จัดส่งจุดหมายปลายทางเดียว หรือรับมากกว่าหนึ่งออร์เดอร์เพื่อส่งหลายจุดหมายนัดรับสินค้าที่ Walmart หรือร้านคู่ค้า เช่น Home Depot หรือ Advance Auto Partsรับสินค้าที่เตรียมไว้ที่จุดจอดรถ Walmart หรือไปหยิบสินค้าให้ลูกค้าด้วยตัวเอง
โดย Walmart จ่ายเงินให้คนขับ Spark เฉลี่ยประมาณ 339 บาทบวกทิป แต่หากคำสั่งซื้อมีสินค้าจำนวนมาก หรือเป็นการขับรถระยะทางไกลขึ้น ค่าจ้างก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้มีตัวอย่างคนขับ Spark เปิดเผยว่า เธอมีรายได้เฉลี่ย 3,390 บาทต่อวัน ก่อนหักค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยรับคำสั่งซื้อสามหรือสี่รายการในคราวเดียวกันจากลานจอดรถของร้านค้า
นอกจากนี้ Spark ยังจับกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ด้วยการต่อยอดร่วมกับบัตร Amex Platinum โดยลูกค้ารายได้สูงที่ถือบัตรนี้จะได้สิทธิ์สมัครสมาชิก Walmart+ ฟรี เพื่อรับบริการจัดส่งด่วนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ทีนี้หากเรามาดูทางฝั่งของ Amazon กันบ้าง
Amazon ยังคงเป็นเจ้าของร้านขายของชำ Whole Foods ที่มีมากกว่า 1,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ
อีกทั้งยังมีสมาชิก Prime มากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ที่ได้สิทธิ์บริการส่งสินค้าฟรีสำหรับออร์เดอร์คำสั่งซื้อที่มากกว่า 1,200 บาท
ขณะเดียวกัน Amazon กำลังทดสอบการวางร้าน Amazon Grocery ให้ติดกับสาขาของ Whole Foods
ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้า เช่น ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่มกระป๋อง รวมไปถึงของสดอย่าง นม ไข่ และสินค้าอื่น ๆ ที่พบว่าลูกค้าซื้อบ่อยอีก 3,000 รายการ เพื่อจับลูกค้าให้แน่นขึ้น
รวมถึงเพิ่มศูนย์จัดส่งแบบส่งในวันเดียวกันที่เมืองต่าง ๆ เช่น ฟีนิกซ์, ออร์แลนโด, ฟลอริดา และแคนซัสซิตี, มิสซูรี ภายในสิ้นปีนี้
อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะเห็นถึงการแข่งขันอันดุเดือดที่ไม่มีใครยอมใครของ Walmart และ Amazon
แม้ Amazon จะได้เปรียบในด้านเทคโนโลยีและฐานสมาชิก
แต่ Walmart เองก็เดินเกมเร็ว ด้วย Spark ที่มีระบบจัดส่งที่ปรับตัวได้ไว ต้นทุนต่ำ และเข้าถึงลูกค้าได้ลึก
แต่ Walmart เองก็เดินเกมเร็ว ด้วย Spark ที่มีระบบจัดส่งที่ปรับตัวได้ไว ต้นทุนต่ำ และเข้าถึงลูกค้าได้ลึก
Spark จึงกลายเป็น “หมัดเด็ด” ที่ทำให้ Amazon ไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป..