Business
Bearaby แบรนด์ผ้าห่ม 700 ล้าน ที่ช่วยให้หลับลึกและสบายยิ่งขึ้น
18 ส.ค. 2021
Bearaby แบรนด์ผ้าห่ม 700 ล้าน ที่ช่วยให้หลับลึกและสบายยิ่งขึ้น /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า ในปี 2020 กรมสุขภาพจิตได้เปิดเผยว่า
กว่า 19 ล้านคนในประเทศไทย ประสบปัญหานอนไม่หลับ
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับนี้ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนไทยเท่านั้น
แต่นับได้ว่า เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของคนทั่วโลกเลยทีเดียว
กว่า 19 ล้านคนในประเทศไทย ประสบปัญหานอนไม่หลับ
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ปัญหาการนอนไม่หลับนี้ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนไทยเท่านั้น
แต่นับได้ว่า เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของคนทั่วโลกเลยทีเดียว
เพราะอย่างในสหรัฐอเมริกาเอง ก็มีประชากรกว่า 70 ล้านคน ที่ทรมานจากโรคนอนไม่หลับเช่นกัน
จนส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าชาวอเมริกัน อาจจ่ายเงินมากถึง 1.2 ล้านล้านบาทในปี 2021
เพื่อหาหนทางที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถนอนหลับได้อย่างมีความสุขในทุก ๆ คืน
เพื่อหาหนทางที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถนอนหลับได้อย่างมีความสุขในทุก ๆ คืน
ซึ่งหากมองในเชิงธุรกิจ คงเรียกได้ว่า เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่จะมีแบรนด์มากมาย พยายามออกสินค้าเพื่อมาตอบโจทย์ชาวนอนไม่หลับ ให้สามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และหนึ่งในแบรนด์เหล่านั้น ก็คือแบรนด์ Bearaby ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผ้าห่มที่สามารถทำยอดขายได้กว่า 700 ล้านบาทในปี 2020
แล้วผ้าห่มจากแบรนด์ Bearaby จะช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Bearaby นั้นเปิดตัวในช่วงปลายปี 2018 โดยคุณ Kathrin Hamm
คุณ Kathrin Hamm จบการศึกษาปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ ทำงานที่ World Bank ซึ่งเป็นเหตุผลให้เธอต้องเดินทางไปทั่วโลก
อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศอินเดีย
แต่ที่พักอาศัยของเธออยู่ติดกับถนน ส่งผลให้เธอนอนไม่หลับ
แต่ที่พักอาศัยของเธออยู่ติดกับถนน ส่งผลให้เธอนอนไม่หลับ
ซึ่งปัญหามันไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะมันยังกระทบไปถึงการทำงาน ทำให้เธอไม่มีสมาธิระหว่างวัน และรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลาด้วย
พอเรื่องเป็นแบบนี้เธอก็ได้พยายามลองซื้อทุกอย่าง ที่จะช่วยให้เธอนอนหลับได้มาใช้ จนเสียเงินไปมากมาย
แต่สุดท้ายเธอก็ได้ยินแนวคิดที่ทำให้นอนหลับง่าย ๆ ด้วยการใช้ผ้าห่มหนา ๆ ที่มีน้ำหนักมาห่มในตอนนอน
โดยเรื่องนี้ก็มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมารองรับแล้วว่า การที่เราห่มผ้าห่มที่ค่อนข้างมีน้ำหนักนั้น
จะช่วยให้เราสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น รวมถึงยังช่วยลดความวิตกกังวลได้อีกด้วย
จะช่วยให้เราสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น รวมถึงยังช่วยลดความวิตกกังวลได้อีกด้วย
แน่นอนว่าเธอก็ได้ลองวิธีนี้ ซึ่งมันก็สำเร็จเพราะทำให้เธอสามารถนอนหลับได้ 4 ชั่วโมงในบ่ายวันเสาร์
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน
แต่ความสำเร็จนี้กลับอยู่ได้ไม่นาน เพราะสุดท้ายเธอก็ตื่นในคืนต่อมา
เนื่องจากผ้าห่มที่หนา ทำให้เวลาห่มมันร้อนเกินไปที่จะต้องห่มผ้าตลอดทั้งคืน
เนื่องจากผ้าห่มที่หนา ทำให้เวลาห่มมันร้อนเกินไปที่จะต้องห่มผ้าตลอดทั้งคืน
สุดท้ายเมื่อเธอพยายามหาซื้อผ้าห่มในแบบที่ต้องการไม่ได้
เธอจึงตัดสินใจที่จะทำผ้าห่มขึ้นมาเองเสียเลย
เธอจึงตัดสินใจที่จะทำผ้าห่มขึ้นมาเองเสียเลย
และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจขายผ้าห่มหนานุ่มแบรนด์ Bearaby นั่นเอง
แรกเริ่มคุณ Kathrin Hamm ได้ตั้งแคมเปนบนแพลตฟอร์ม Crowdfunding เพื่อหาทุนในการทำสินค้า จนในที่สุดเธอก็ได้เงินทุนมา
เธอทดลองทำโปรโตไทป์ตัวแรกในห้องนั่งเล่นกับคุณแม่ของเธอ จากนั้นก็นำไปส่งให้กับโรงงานในประเทศเยอรมนี ที่พร้อมจะช่วยผลิตสินค้าในแบบที่เธอต้องการ
โดยปกติแล้วผ้าห่มหนา ๆ ผืนอื่นในท้องตลาด มักจะผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ และถ่วงน้ำหนักให้มากขึ้นด้วยการใส่เม็ดพลาสติกลงไป ซึ่งไม่เพียงแค่ห่มแล้วร้อน แต่ทำร้ายโลกด้วย
แต่ผ้าห่มของ Bearaby นำเอาเส้นใยออร์แกนิกที่ได้จากธรรมชาติ มาทำเป็นไหมพรมเส้นอ้วน จากนั้นจึงนำมาถักให้กลายเป็นผ้าห่ม
ซึ่งช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการถัก จะเข้ามาช่วยเรื่องการระบายความร้อน
ในขณะเดียวกันด้วยวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติ ก็ทำให้ผ้าห่มผืนนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ในขณะเดียวกันด้วยวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติ ก็ทำให้ผ้าห่มผืนนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ดังนั้นเมื่อเปิดตัวสินค้าไป Bearaby ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก
อย่างในปี 2020 ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ที่เริ่มวางขาย รายได้ของแบรนด์ก็แตะ 700 ล้านบาทแล้ว เติบโตจากปีก่อนถึง 600%
ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เติบโต ท่ามกลางวิกฤติโควิด 19 ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลง
แล้ว Bearaby ทำได้อย่างไร ?
ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ก็มาจากสถานการณ์โรคระบาด ที่ทำให้ผู้คนเริ่มมีความกังวลเกิดขึ้น และพยายามมองหาทางออกที่จะช่วยลดความกังวลลงได้ รวมถึงสินค้าจำพวกของแต่งบ้านเองก็ได้รับความสนใจ
ทำให้สินค้าของ Bearaby ซึ่งนอกจากจะช่วยให้นอนหลับ แล้วยังมีหน้าตาที่สวยงามคล้ายของแต่งบ้าน ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
โดยตอนแรก Bearaby จะมีการขายสินค้าผ่าน 2 ช่องทางคือ
ทางเว็บไซต์ของตัวเอง และ West Elm ผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายหนึ่ง เพื่อทดสอบการขายสินค้าว่าแบบไหนจะได้ผลดีมากกว่ากัน
ทางเว็บไซต์ของตัวเอง และ West Elm ผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายหนึ่ง เพื่อทดสอบการขายสินค้าว่าแบบไหนจะได้ผลดีมากกว่ากัน
ปรากฏว่า ยอดสั่งซื้อมาจากหน้าเว็บไซต์มากกว่าหน้าร้าน โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์
นั่นทำให้ Bearaby เริ่มมองเห็นแล้วว่า ลูกค้าของแบรนด์อยู่ตรงไหน
จากนั้นจึงได้ร่วมมือกับเอเจนซี เพื่อทดสอบการยิงโฆษณา ที่จะช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้น
จากนั้นจึงได้ร่วมมือกับเอเจนซี เพื่อทดสอบการยิงโฆษณา ที่จะช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้คุณ Diana Lee ซึ่งเป็น Co-Founder ได้บอกว่า แทนที่จะยิงโฆษณาแค่ 3-5 แบบให้คลุมทุกพื้นที่
Bearaby กลับเลือกสร้างสรรค์โฆษณาเป็นจำนวนเกือบ 1,000 รูปแบบ เพื่อเจาะไปตามแต่ละเมือง
เพราะพวกเขามองว่า แต่ละพื้นที่ย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านภาษาและความสนใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้โฆษณาที่เหมือนกันหมดได้
เพราะพวกเขามองว่า แต่ละพื้นที่ย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านภาษาและความสนใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้โฆษณาที่เหมือนกันหมดได้
ถึงแม้วิธีนี้ดูเหมือนจะต้องเปลืองงบโฆษณามากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วมันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น
เพราะพวกเขาเลือกกระจายงบการโฆษณาออกไป
จากที่เคยใช้งานทีมของบริษัทตัวเอง ที่เชี่ยวชาญเฉพาะบางแพลตฟอร์ม
ก็ส่งให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญกว่าอย่างเอเจนซีไปทำแทน
ทำให้แม้งบการตลาดที่จ่ายไปจะเท่าเดิม แต่ลูกค้าที่ได้กลับเพิ่มมากขึ้น
จากที่เคยใช้งานทีมของบริษัทตัวเอง ที่เชี่ยวชาญเฉพาะบางแพลตฟอร์ม
ก็ส่งให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญกว่าอย่างเอเจนซีไปทำแทน
ทำให้แม้งบการตลาดที่จ่ายไปจะเท่าเดิม แต่ลูกค้าที่ได้กลับเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า วิธีนี้จะยังเห็นผลอยู่หรือไม่
เนื่องจากในปี 2021 นี้ Apple มีการอัปเดต iOS 14 ซึ่งให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายมองว่าน่าจะส่งผลต่อการยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ
ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ ก็มีผู้ใช้งานไอโฟนประมาณ 46.9% เลยทีเดียว
แต่ไม่ว่าโฆษณาจะเชิญชวนหรือตรงเป้าขนาดไหน สุดท้ายสิ่งที่ตัดสินได้ดีที่สุดก็คงจะเป็น “คุณภาพของสินค้า” ซึ่งถ้าดีจริง แน่นอนว่าไม่ต้องพึ่งการยิงโฆษณา ลูกค้าก็คงช่วยบอกต่อกันอย่างแน่นอน
References:
-https://www.modernretail.co/startups/the-pandemic-made-me-rethink-the-dtc-playbook-bearaby-founder-kathrin-hamm-on-growing-a-company-amid-the-coronavirus/
-https://www.forbes.com/sites/viviennedecker/2019/10/30/will-a-weighted-blanket-solve-your-sleep-woes-bearabys-founder-is-betting-on-it/?sh=2f89830059db
-https://www.forbes.com/sites/pamdanziger/2021/08/15/3-brands-offering-innovative-solutions-to-sleep-deprived-americans-a-market-worth-37-billion/?sh=4c6b7e305668
-https://globalwellnessinstitute.org/wellnessevidence/sleep-health/sleep-health-spotlight/
-https://www.modernretail.co/startups/inside-dtc-weighted-blanket-bearabys-hyper-local-marketing-strategy/
-https://www.entrepreneur.com/article/371680
-https://www.statista.com/statistics/236550/percentage-of-us-population-that-own-a-iphone-smartphone/
-https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30519
-https://www.modernretail.co/startups/the-pandemic-made-me-rethink-the-dtc-playbook-bearaby-founder-kathrin-hamm-on-growing-a-company-amid-the-coronavirus/
-https://www.forbes.com/sites/viviennedecker/2019/10/30/will-a-weighted-blanket-solve-your-sleep-woes-bearabys-founder-is-betting-on-it/?sh=2f89830059db
-https://www.forbes.com/sites/pamdanziger/2021/08/15/3-brands-offering-innovative-solutions-to-sleep-deprived-americans-a-market-worth-37-billion/?sh=4c6b7e305668
-https://globalwellnessinstitute.org/wellnessevidence/sleep-health/sleep-health-spotlight/
-https://www.modernretail.co/startups/inside-dtc-weighted-blanket-bearabys-hyper-local-marketing-strategy/
-https://www.entrepreneur.com/article/371680
-https://www.statista.com/statistics/236550/percentage-of-us-population-that-own-a-iphone-smartphone/
-https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30519
สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ติดตามลงทุนเกิร์ล ที่ช่วงนี้มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
อย่ามองข้ามปัญหานี้ไปนะคะ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอ
มักจะส่งผลเสียต่ออารมณ์และการใช้สมาธิ ซึ่งอาจกระทบทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์
อย่ามองข้ามปัญหานี้ไปนะคะ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอ
มักจะส่งผลเสียต่ออารมณ์และการใช้สมาธิ ซึ่งอาจกระทบทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์
และหากเป็นการนอนไม่หลับเรื้อรัง ก็ยิ่งไม่ดีต่อร่างกายของเราแน่นอน
ลองหาผ้าห่มที่มีน้ำหนักมาลองห่มบ้าง หากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน
ลองหาผ้าห่มที่มีน้ำหนักมาลองห่มบ้าง หากิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน
หรือถ้าไม่รู้จะทำอย่างไร ลงทุนเกิร์ลขอแนะนำรายการ Headspace Guide to Sleep ที่มีฉายอยู่ใน Netflix จำนวน 7 ตอน
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายการที่เหมาะแก่การฟังก่อนนอน และช่วยให้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการนอนหลับที่มากขึ้นด้วย
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายการที่เหมาะแก่การฟังก่อนนอน และช่วยให้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการนอนหลับที่มากขึ้นด้วย
อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน