วิธีสร้างแบรนด์สกินแคร์จาก หลังครัว สู่ชั้นวาง Sephora ของ Herbivore
Business

วิธีสร้างแบรนด์สกินแคร์จาก หลังครัว สู่ชั้นวาง Sephora ของ Herbivore

30 พ.ย. 2021
วิธีสร้างแบรนด์สกินแคร์จาก หลังครัว สู่ชั้นวาง Sephora ของ Herbivore /โดย ลงทุนเกิร์ล
สำหรับในประเทศไทย การทำเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ขายเองตามบ้าน อาจจะดูเหมือนเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะคนอาจเข้าใจว่าเป็น “ครีมกวน” หรือ ครีมที่ทำขึ้นเอง โดยไม่มีการรับรองมาตรฐาน
แต่รู้หรือไม่ว่า ในสหรัฐอเมริกากลับมีแบรนด์หนึ่งที่เริ่มต้นมาจาก “หลังครัว” และโดดเด่นจนถึงขนาดที่แบรนด์ถูกเชิญให้นำสินค้ามาวางขายใน Sephora ซึ่งแบรนด์ที่เรากำลังพูดถึงก็คือ “Herbivore Botanicals” นั่นเอง
แล้วแบรนด์ Herbivore น่าสนใจอย่างไร ?
กว่าจะได้ไปขายใน Sephora ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หากใครติดตามสกินแคร์ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ก็คงจะเคยได้ยินชื่อแบรนด์ Herbivore Botanicals กันมาบ้าง เพราะแบรนด์นี้มักจะติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ “สกินแคร์วีแกน” หรือก็คือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากพืช 100% โดยปราศจากวัตถุดิบที่ได้จากสัตว์ รวมถึงไม่มีการทดลองในสัตว์อีกด้วย
แม้ว่าในวันนี้ Herbivore จะกลายมาเป็นสกินแคร์วีแกนขายดี ประจำร้านค้าปลีกอย่าง Sephora
แต่จริง ๆ แล้ว Herbivore ไม่ใช่แบรนด์ใหญ่โตอะไร แถมจุดเริ่มต้นยังมีแรงงานเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็คือ คุณ Julia Wills และคุณ Alex Kummerow สองสามีภรรยาเจ้าของแบรนด์ ที่เริ่มต้นการสร้างแบรนด์จาก “เครื่องทำสบู่” เพียงเครื่องเดียว ที่คุณ Kummerow ซื้อเป็นของขวัญให้กับภรรยา
ถึงแม้สกินแคร์ที่ทั้งคู่รังสรรค์ขึ้นมาจะมาจากหลังครัวก็ตาม แต่คุณภาพก็ไม่ได้บ้าน ๆ เพราะหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ อย่างคุณ Wills เรียนจบศาสตร์ความงามจากวิถีธรรมชาติโดยตรง
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ในช่วงวัยเด็กของคุณ Wills ก็ยังถูกรายล้อมไปด้วยเรื่องราวสวย ๆ งาม ๆ จากคุณแม่ของเธอ ที่ชอบทำสปาเองที่บ้าน และที่สำคัญคือ พวกวัตถุดิบที่นำมาบำรุงผิว ก็ยัง DIY มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ
ด้วยความที่คุณ Wills เติบโตมาพร้อมกับเรื่องความสวยความงาม ทำให้เธอตัดสินใจเรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาสุขภาพ ที่ Bastyr University
โดยขณะที่คุณ Wills อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอได้เรียนเรื่องศาสตร์การบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหย หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อ Aromatherapy และนอกจากนี้เธอยังได้ศึกษาเรื่อง แพทย์แผนจีน ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ความสนใจเรื่องความสวยจากธรรมชาติได้เพิ่มพูนขึ้น
แต่หลังจากคุณ Wills เรียบจบ เธอกลับเลือกเข้าทำงาน ในสายอาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องกับความงาม อย่างงานด้านการคำนวณ
แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้หลงใหลกับอาชีพนี้เท่าไรนัก ทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากงาน ในปี 2011
ซึ่งตอนที่คุณ Wills ลาออกจากงานมาอยู่บ้าน คุณ Kummerow สามีของเธอก็ไม่อยากให้ภรรยารู้สึกเหงา จึงได้ซื้อเครื่องทำสบู่เป็นของขวัญ ไว้ให้เธอหาอะไรทำเป็นงานอดิเรก
และเครื่องทำสบู่เครื่องนี้นี่เอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ Herbivore เพราะเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์กองทัพสบู่ก้อนออร์แกนิกก็ถูกผลิตขึ้นจนเต็มครัว
แต่อย่างไรก็ตาม สบู่ก้อนเหล่านี้ก็ถูกผลิตขึ้นมาเป็นงานอดิเรก และถูกวางกองไว้เฉย ๆ เท่านั้น ทำให้ยังไม่เคยมีใครนำไปทดลองใช้จริง ๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ Kummerow ได้ขอให้ภรรยาลองทำสบู่ เพื่อมารักษาปัญหาผิวหนังที่เป็นสะเก็ดเงินของเขาโดยเฉพาะ
ซึ่งพอเขาลองใช้สบู่ไปเพียง 1 เดือน ผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพึงพอใจมาก เพราะอาการสะเก็ดเงินที่เป็นเรื้อรังมานานกว่า 3 ปีของสามีค่อย ๆ ดีขึ้น
เมื่อเรื่องราวเป็นแบบนี้ 2 สามีภรรยาก็ไม่อยากให้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเป็นเพียงแค่งานอดิเรก รวมถึงสบู่ที่คุณ Wills ทำขึ้นมาก็มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน จนเพียงพอสำหรับวางขาย
ดังนั้น ทั้งคู่จึงเริ่มต้นสร้างธุรกิจอย่างจริงจัง โดยเริ่มเอาสบู่มาวางขายที่ตลาดนัดชุมชน (Farmer’s Market) ที่ขายสินค้าประเภทสุขภาพและออร์แกนิก ก่อนจะขยับขยายไปเปิดขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่เน้นสินค้าแฮนด์เมด อย่าง Etsy
ซึ่งหลังจากขายสินค้าไปได้ไม่กี่เดือน คุณ Wills ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ และมีออร์เดอร์ล้นมือจนเธอผลิตไม่ทัน
พอคุณ Kummerow เริ่มเห็นว่า ธุรกิจของคุณ Wills กำลังเติบโต และต้องการกำลังเสริม เขาก็ไม่รอช้า ตัดสินใจลาออกจากงานทันที เพื่อมาสนับสนุนภรรยา
ถึงแม้ว่าในขณะนั้นคุณ Kummerow จะทำงานประจำที่ Amazon แผนกการผลิตวิดีโอ ซึ่งถือเป็นการงานที่มั่นคงก็ตาม
แต่หลังจากคุณ Kummerow เห็นว่าภรรยาของเขามีความมุ่งมั่นกับธุรกิจนี้มาก มันจึงเป็นแรงผลักดันให้เขากล้าที่จะก้าวออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย
ที่น่าสนใจคือ แบรนด์ Herbivore ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปี ก็สามารถพัฒนาสินค้า จนพร้อมเปิดขายอย่างเต็มรูปแบบ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่สบู่ก้อนเท่านั้น แต่เริ่มมีสินค้าสกินแคร์ตัวอื่น ๆ เข้ามา เช่น คลีนซิง, มาสก์ และเซรั่มต่าง ๆ
ซึ่งผลตอบรับของกิจการของทั้งคู่ก็เรียกว่าราบรื่นไม่มีสะดุด เพราะหลังจากเปิดขายได้เพียง 1 ปี สามีภรรยาคู่นี้ก็ได้รับข่าวดีต่อเนื่อง จาก Anthropologie เชนร้านค้าปลีก ที่มีสาขามากกว่า 200 แห่งในสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ภายใต้เครือ Urban Outfitters ก็ได้ติดต่อมาว่า ต้องการนำสินค้าของพวกเขาไปวางขาย
แม้ปัจจุบันสถานการณ์ของเครือ Urban Outfitters จะไม่สู้ดีนักเพราะวิกฤติโรคระบาด แต่หากเราย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ก็ถือว่าเป็นยุคทอง และการได้ไปวางขายในร้านนี้ก็ถือเป็นหนึ่งความสำเร็จแล้ว
แต่การได้เข้าไปวางขายใน Anthropologie ก็เป็นเพียงความสำเร็จก้าวแรกของทั้งคู่เท่านั้น เพราะโชคใหญ่กำลังรอหล่นทับพวกเขาอยู่
โดยหลังจาก 2 สามีภรรยาได้โชว์การผลิต Herbivore แบบสด ๆ ที่อีเวนต์งานคราฟต์
ผลงานของพวกเขาก็ไปเตะตาทีมงาน Sephora จนนำไปสู่การเชิญชวนให้ Herbivore เข้ามาขายที่ Sephora ทั่วสหรัฐอเมริกา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขยายไปสู่เคาน์เตอร์ในอังกฤษ จนปัจจุบันมีวางขายออนไลน์ทั่วโลก
ซึ่งการได้นำสินค้าเข้าไปวางขายใน Sephora ก็สามารถการันตีคุณภาพคับกล่องของแบรนด์ Herbivore ได้แล้ว
แต่แม้ว่ากิจการจะขยายไปใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่า Herbivore จะถอดทิ้งเอกลักษณ์ของแบรนด์ไป
เพราะทุกวันนี้ Herbivore ก็ยังคงเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ยังทำแบบ “แฮนด์เมด” ทุกชิ้นเหมือนเดิม ต่างเพียงแค่ในตอนนี้ไม่ได้ทำจากห้องครัวเล็ก ๆ เพียง 2 คนแล้ว แต่มีกำลังคนเพิ่มขึ้น
อย่างที่กล่าวไปว่า จุดเด่นของแบรนด์ ก็คือ ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
ดังนั้นส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง จึงเป็นเรื่องสำคัญมากของแบรนด์ที่คุณ Wills ให้ความใส่ใจ รวมทั้งพัฒนาวัตถุดิบใหม่ ๆ เสมอ ๆ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น จะถูกผลิตด้วยมืออย่างพิถีพิถันโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากคุณภาพของส่วนผสมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมแบรนด์ไม่แพ้กันก็คือ แพ็กเกจจิง
เพราะหากเราสังเกตดี ๆ จะพบว่า บรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นของแบรนด์จะมีความโปร่งใส ทำให้เรามองเห็นส่วนผสมของสินค้าแต่ละสูตรได้
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีที่มาจากคุณ Wills ที่ต้องการดีไซน์แพ็กเกจจิงให้เป็นขวดใส เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นสีสันที่สวยงามของส่วนผสมจากธรรมชาติที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน วัสดุที่นำมาทำแพ็กเกจจิงส่วนใหญ่ ก็ยังมาจากธรรมชาติ เช่น หญ้า, กระดาษ และวัสดุรีไซเคิล และใช้พลาสติกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
และทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวของ Herbivore แบรนด์เล็ก ๆ ที่เริ่มต้นจากครัวหลังบ้าน สู่อาณาจักรเคาน์เตอร์แบรนด์สกินแคร์ระดับโลก
แม้ปัจจุบัน Herbivore จะไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างแข็งแรง และรายล้อมไปด้วยความอบอุ่น
ซึ่งคุณ Wills มองว่าการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ควรเริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองเชื่อ และมีแพสชันไปกับมัน ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการเงินจำนวนมาก เพราะบางครั้งธุรกิจที่เราทำอาจจะไม่ได้ทำเงินตั้งแต่แรก
แต่หากเรามีความหลงใหลไปกับงานที่เราทำ สักวันหนึ่งสิ่งที่เราได้ทุ่มเทลงไปก็จะตอบแทนกลับมา..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.