BFA บริการเครื่องสำอางแบบ Subscription ที่ระดมทุนได้ 3,000 ล้าน
Business

BFA บริการเครื่องสำอางแบบ Subscription ที่ระดมทุนได้ 3,000 ล้าน

3 มี.ค. 2022
BFA บริการเครื่องสำอางแบบ Subscription ที่ระดมทุนได้ 3,000 ล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
บางครั้งไม่ต้องเป็น “คนแรก” เราก็ประสบความสำเร็จได้
เหมือนอย่างกรณีของบริษัท Ipsy สตาร์ตอัปที่ทำสินค้าเครื่องสำอางแบบ Subscription ที่เปิดตัวหลัง Birchbox บริการแบบเดียวกัน
ปัจจุบัน Birchbox ที่ก่อตั้งในปี 2010 มีสมาชิกประมาณ 1 ล้านคน
ส่วน Ipsy ที่ก่อตั้งในปี 2011 กลับมีสมาชิกกว่า 3.5 ล้านคนแล้ว
โดย Ipsy เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้บริษัท BFA หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า Beauty For All Industries
ที่น่าสนใจคือ ภายใต้บริษัท BFA ไม่ได้มีแค่ Ipsy แต่ยังมีอีกแบรนด์ในเครือ ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องสำอางแบบ Subscription เหมือนกัน
และในปี 2021 บริษัทก็สามารถระดมทุนได้กว่า 3,000 ล้านบาทอีกด้วย
BFA มองเห็นอะไรในธุรกิจนี้ ?
แล้วทำไมถึงต้องมีธุรกิจแบบเดียวกัน 2 แบรนด์ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นในปี 2011 หรือ 1 ปีหลังจากที่บริษัท Birchbox เริ่มธุรกิจเครื่องสำอางแบบ Subscription
บริษัท Ipsy ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยโมเดลธุรกิจเดียวกัน หรือก็คือบริการเครื่องสำอางแบบรายเดือน
ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสมัครสมาชิก เพื่อรับเครื่องสำอางขนาดทดลองมาใช้ในทุก ๆ เดือน
Ipsy ก่อตั้งโดยคุณ Marcelo Camberos, คุณ Michelle Phan และคุณ Jennifer Goldfarb
ถึงแม้ว่า Ipsy จะเปิดตัวทีหลัง แต่หนึ่งในผู้ก่อตั้ง อย่างคุณ Michelle Phan ได้ใช้จุดแข็งของตัวเอง ซึ่งก็คือชื่อเสียง ในด้านการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ความงามคนแรก ๆ บน YouTube
ในการโปรโมตแบรนด์ และทำให้ Ipsy เติบโตอย่างรวดเร็ว
ในปี 2015 ได้มีบริษัท TPG Growth ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุน
เข้ามาร่วมลงทุนกับ Ipsy และถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญ ที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนบริษัท
อย่างไรก็ตามในปี 2017 คุณ Michelle Phan ได้ลาออกจากบริษัท และขายหุ้นของตนเอง ในราคา 1,100 ล้านบาท ทำให้เหลือผู้ก่อตั้งเพียง 2 คนที่ยังดูแลกิจการอยู่
แม้ว่า Ipsy จะขาดหนึ่งกำลังสำคัญไป แต่ในปี 2018 บริษัท Ipsy ก็ยังดำเนินงานไปได้ และกลายเป็นบริการเครื่องสำอางแบบรายเดือน ที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยมีจำนวนสมาชิก 3.5 ล้านคน
เมื่อธุรกิจดำเนินมาได้ดี บริษัท Ipsy จึงเปิดตัวบริการใหม่ชื่อว่า Glam Bag Plus
ซึ่งจะจัดส่งสินค้าขนาดจริง แทนที่จะเป็นการส่งสินค้าขนาดทดลองแบบเดิม ๆ
แต่แทนที่จะปลุกปั้นแบรนด์ใหม่ทั้งหมด บริษัท Ipsy ได้ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ BoxyCharm ที่ให้บริการเครื่องสำอางขนาดจริง แบบ Subscription มาเลย
และจากการเข้าซื้อกิจการ BoxyCharm ของ Ipsy ก็ทำให้ผู้ก่อตั้งทั้งสองที่เหลืออยู่ ตัดสินใจก่อตั้งอีกบริษัทชื่อ Beauty For All Industries ขึ้นในปี 2020 เพื่อรวมบริษัททั้งสองให้อยู่ภายใต้บริษัทแม่บริษัทเดียว
เรื่องนี้ ส่งผลให้ BFA มีฐานลูกค้ามากขึ้น
โดยข้อมูลจาก Forbes เผยว่าบริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 30 ล้านคน
และในปี 2020 ที่เกิดวิกฤติโรคระบาด บริษัทก็ยังทำรายได้อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท
เพราะวิถีในการช็อปปิงของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งอาจมีสาเหตุจากภาวะโรคระบาด
เนื่องจากไม่สามารถออกจากบ้านได้อย่างเคย ทำให้ถ้าหากมีสินค้าส่งมาให้ลองถึงหน้าบ้าน
ก็เป็นอีกทางเลือก ที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจมากขึ้น
มากไปกว่านั้น ในตอนเริ่มธุรกิจแรก ๆ ก็มีอินฟลูเอนเซอร์ชั้นนำเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ทำให้บริษัทเข้าใจถึงตลาดอินฟลูเอนเซอร์เป็นอย่างดี และได้นำเอาจุดแข็งตรงนี้ มาใช้ในการสานสัมพันธ์กับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น
ที่น่าสนใจคือ BFA ยังต่อยอดธุรกิจ สู่อีกหนึ่งบริษัทชื่อว่า Madeby Collective
โดย Madeby Collective ก่อตั้งขึ้นเพื่อนำข้อมูลของเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่เคยถูกรีวิวใน Ipsy มาพัฒนาให้กลายเป็นเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ
และอาศัยการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ หรือก็คือใช้วิธีคล้าย ๆ กับตอนที่เปิดตัว Ipsy เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธีที่แบรนด์การันตีได้ ว่าเมื่อทำสินค้าออกมา จะมีฐานลูกค้ารองรับอย่างแน่นอน
โดยแบรนด์ที่ผลิตภายใต้ Madeby Collective ได้แก่
ITEM Beauty ของอินฟลูเอนเซอร์ชาวอเมริกัน ชื่อคุณ Addison Rae
Treslúce Beauty นักร้องชาวเม็กซิโก-อเมริกัน ชื่อคุณ Becky G
นอกจากนั้น ยังมีบริการให้สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ ที่อยากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง รวมถึงบริการซัปพอร์ตเรื่องการตลาด ให้สินค้ากลายเป็นที่รู้จักอีกด้วย
และเพื่อให้สินค้าที่ให้บริการใน Ipsy และ BoxyCharm มีครอบคลุมมากขึ้น
BFA ก็ได้ผลิตแบรนด์ของตัวเอง ภายใต้แบรนด์เครื่องสำอางชื่อ Complex Culture
และแบรนด์สกินแคร์ชื่อ Refreshments
โดยสินค้าที่ผลิตออกมา ยังนำไปวางจำหน่ายที่หน้าร้านของ Sephora เชนร้านเครื่องสำอางรายใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจสินค้า แต่ไม่ได้สมัครสมาชิก สามารถทดลองใช้สินค้าได้
ล่าสุดบริษัท BFA ยังสามารถระดมทุนได้อีก 3,000 ล้านบาท นำโดยบริษัท TPG Growth
โดยเงินส่วนนี้ก็จะถูกนำไปพัฒนา ในส่วนของเทคโนโลยีอัลกอริทึม และ Machine Learning เพื่อจะทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์แบบไหนก็ตาม
เพราะยุคนี้ลูกค้าไม่จำเป็นจะต้องช็อปปิงที่ร้านค้านอกบ้านอีกต่อไป
แต่สามารถช็อปปิงในมือถือ หรือคอมพิวเตอร์แทนได้
ฉะนั้นการจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า อาจต้องให้ความสำคัญ กับการวางระบบของเว็บไซต์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
รองรับการใช้งานผ่านหน้าจอทุกประเภท
รวมถึงเชื่อมต่อระหว่างโลกในจอกับโลกจริง
เพื่อให้ประสบการณ์ของลูกค้า ไหลลื่นได้อย่างไม่สะดุด
ก็จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.