แกะสูตรปั้นแบรนด์ โคเรียดอง ที่ทำรายได้ 100 ล้าน ภายใน 2 ปี /โดย ลงทุนเกิร์ล

สำหรับใครที่เป็นขาประจำ เมนูทะเลดองสไตล์เกาหลี
ก็น่าจะต้องเคยได้ยินชื่อแบรนด์ “โคเรียดอง” มาก่อน

และที่น่าสนใจคือ แม้ว่าโคเรียดองจะเพิ่งเปิดตัวเพียง 2 ปี
แต่กลับสามารถสร้างยอดขายในปี 2564 ทะลุ 100 ล้านบาท

โดยวันนี้ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณภีม-พาทิศ บุญอนันต์ และคุณเปป-ภาณุพันธ์ เมืองแดง สองผู้ก่อตั้งแบรนด์โคเรียดอง ถึงวิธีการสร้างแบรนด์อาหารดองสไตล์เกาหลี ให้ถูกปากและถูกใจคนไทย

แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ พวกเขามีแนวคิดในการทำธุรกิจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แบรนด์โคเรียดอง ก่อตั้งขึ้นในปี 2020

เดิมที คุณเปปทำงานประจำอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เขาก็เหมือนใครหลาย ๆ คน ที่มีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ จึงตัดสินใจลาออกจากงาน มาเปิดร้านขายปูดองในตลาดนัดกลางคืน ตามความชื่นชอบ

และในเวลาต่อมา คุณเปปก็เกิดไอเดีย ขยับขยายธุรกิจไปในช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ จึงได้ชักชวนคุณภีมที่ทำงานออนไลน์อยู่แล้ว มาร่วมลงทุนธุรกิจทะเลดอง แบบส่งตรงถึงหน้าบ้าน ซึ่งในตอนนั้น กำลังเป็นกระแสในเกาหลีใต้ และยังไม่ค่อยมีคู่แข่งในตลาดบ้านเรา ทั้งคู่จึงมองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดี

อย่างไรก็ตาม แม้ความตั้งใจจะเกินร้อย แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว การจะริเริ่มทำธุรกิจทะเลดองที่คงความสดใหม่ บรรจุลงกระป๋องจัดส่งให้ลูกค้า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ดังนั้น พวกเขาจึงต้องใช้เวลาในการทำ R&D สินค้า พร้อมกับหาช่องว่างในตลาดไปด้วย โดยใช้เวลากว่า 6 เดือน ก่อนที่แบรนด์จะแจ้งเกิด​ และได้รับผลตอบรับในแง่บวก ตั้งแต่ 3 เดือนแรกที่เปิดตัว

ซึ่งคุณเปปและคุณภีมก็ได้แชร์ถึงกลยุทธ์ ที่ทำให้แบรนด์โคเรียดองประสบความสำเร็จ นั่นคือ

อันดับแรก คือ “การทำ R&D เพื่อปิดช่องโหว่สินค้า”

เริ่มตั้งแต่ ในช่วง 6 เดือน ของการพัฒนาสินค้าก่อนเปิดตัว
โคเรียดอง ก็ได้ทำ R&D จนแน่ใจว่าได้ปิดทุกช่องโหว่ของสินค้า ไม่ว่าจะเป็น

-คิดค้นสูตรน้ำดอง จากการนำซีอิ๊วเกาหลีแท้ ๆ มาผสมให้ได้รสชาติที่คนไทยชื่นชอบ ซึ่งกว่าจะได้สูตรลับของโคเรียดองมา ก็ต้องเสียน้ำดองไปมากกว่า 100 หม้อ เลยทีเดียว

-ศึกษาในห้องแล็บ หาแพ็กเกจจิงที่สามารถบรรจุสินค้า แล้วไม่เกิดเชื้อจุลินทรีย์

-ทดลองการจัดส่งสินค้าจากทุกบริษัทขนส่ง จนได้เลือกใช้บริการขนส่งระบบเย็น ที่ช่วยให้สินค้าไปถึงมือลูกค้าทั่วประเทศ โดยยังคงความสดใหม่ แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบขนส่งปกติถึง 5 เท่าก็ตาม

ที่น่าสนใจคือ โคเรียดองยังได้กำจัด Pain Point ของเมนูทะเลดอง อย่างการเน่าเสียง่าย ซึ่งส่วนมากจะเก็บรักษาได้เพียง 6 ชั่วโมง โดยนำจุดอ่อนนี้ มาเปลี่ยนให้กลายมาเป็น จุดเด่นของแบรนด์ ด้วยการพัฒนาน้ำดองที่ช่วยถนอมอาหารให้อยู่ได้นานที่สุด ทำให้โคเรียดองมีอายุการเก็บรักษาถึง 45 วัน

ไม่เพียงเท่านั้น คุณภีมยังเสริมว่า เวลาที่โคเรียดองจะออกสินค้าใหม่ ก็ต้องผ่านการ R&D อย่างรอบคอบ

ยกตัวอย่าง เมนู “หอยนางรม ซอสเผ็ดเกาหลี” ที่ใช้หอยนางรมจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งคู่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเสาะหาความรู้จากชาวประมงท้องถิ่น สำหรับการทำ R&D เกี่ยวกับวัตถุดิบนี้

ต่อมา คือ “การทำวิจัย”

โดยโคเรียดองมีทีมสำรวจ ที่มีการทำวิจัยตลาดอยู่ตลอดเวลา คอยหาช่องว่างของตลาด ว่าลูกค้าต้องการอะไร และจะทำอย่างไรให้สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น

รวมถึงไม่ละเลยฟีดแบ็กจากลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ เช่น คอมเมนต์ของลูกค้าเกี่ยวกับรสชาติและเรื่องปริมาณ ไปจนถึง การออกเมนูใหม่ ๆ นอกจากเมนูยืนพื้นอย่าง กุ้งและแซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี เช่น ปลาหมึก, โฮตาเตะ และหอยเป๋าฮื้อดองซีอิ๊วเกาหลี รวมถึง หอยนางรม, กุ้ง และแซลมอนดองซอสเผ็ดเกาหลี

และเรื่องที่ขาดไม่ได้ คือ “ควบคุมมาตรฐานสินค้า”

เรื่องความเสถียรของวัตถุดิบ ถือเป็นจุดแข็งของโคเรียดอง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

เนื่องจากโคเรียดองมีซัปพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ ช่วยสแกนคุณภาพวัตถุดิบ ให้ตรงตามมาตรฐาน รวมถึงมีทีม QC ของแบรนด์ คอยตรวจสอบ

ที่สำคัญ วัตถุดิบที่โคเรียดอง อย่างเช่น หอยเป๋าฮื้อกับโฮตาเตะ ก็นำเข้ามาจากญี่ปุ่น และแซลมอนสด ที่นำเข้าจากนอร์เวย์ ซึ่งรับสินค้าใหม่ถึง 3 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์

นอกจากนั้น จะเห็นได้ว่าอีกหนึ่งกลยุทธ์ ที่ทำให้แบรนด์แจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว ก็คือ “พลังของโซเชียลมีเดีย”

สำหรับช่วงแรก ๆ โคเรียดองจะเน้นสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักก่อน จากนั้นจึงเริ่มเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสม มาเป็นกระบอกเสียงให้แบรนด์

ส่วนเป้าหมายในอนาคต ทั้งคู่ก็เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีกมากมาย และกำลังจะนำสินค้าเข้าวางขายในช่องทาง Modern Trade ภายในสิ้นปีนี้

มาถึงตรงนี้ สำหรับประเด็นที่หลายคนมองว่า เมนูทะเลดองจะเป็นกระแสที่มาไว ไปไว หรือไม่

เรื่องนี้ คุณเปปและคุณภีม ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า ทั้งคู่ไม่เคยมองจุดจบของโคเรียดอง เพราะไม่ได้คาดว่าจะทำสินค้าแบบฉาบฉวย แต่หมั่นเรียนรู้ จากลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

เพราะการทำธุรกิจ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
และพร้อมจะมีปัญหาใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ตลอด
ดังนั้น บางครั้ง บทเรียนธุรกิจที่ดี ก็อาจจะถูกสอนโดยลูกค้าของเราเอง..

Reference:
-สัมภาษณ์พิเศษกับคุณพาทิศ บุญอนันต์ และคุณภาณุพันธ์ เมืองแดง ผู้ก่อตั้งแบรนด์โคเรียดอง