“ผำ” อาหารที่คนไทยรู้จักมานาน สู่ ซูเปอร์ฟูดของโลก
Food

“ผำ” อาหารที่คนไทยรู้จักมานาน สู่ ซูเปอร์ฟูดของโลก

3 ก.พ. 2023
“ผำ” อาหารที่คนไทยรู้จักมานาน สู่ ซูเปอร์ฟูดของโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้ไหมว่า พืชท้องถิ่นของภาคเหนือและภาคอีสานของไทย
อย่าง “ผำ” หรือ ไข่ผำ ถูกจัดให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
จนถูกมองว่า ในอนาคตมันจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติอาหาร และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
แล้วเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ผำ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Wolffia (อ่านว่า วุลฟ์เฟีย) เป็นพืชที่พบได้ในภาคเหนือ และภาคอีสานของไทย
ซึ่งจะมีหน้าตาคล้าย “แหน” และเป็นพืชที่อยู่กับผิวน้ำเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันตรงที่ ผำ มีสีเขียวสดกว่า ไม่มีรากและใบ มีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ คล้ายกับไข่กุ้ง มีรสออกจืด ไม่ขม กลิ่นไม่แรง
มักพบอยู่บนผิวน้ำเป็นกลุ่มในแหล่งน้ำที่นิ่ง และใสสะอาดเท่านั้น ทั้งยังชอบอากาศร้อน และแสงแดดจัด
จึงไม่น่าแปลกใจที่พบผำในประเทศที่อยู่ในเขตร้อน
อย่างเช่น อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา แอฟริกา
รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเมียนมา ลาว และไทย
ซึ่งคนไทยในภาคเหนือและภาคอีสาน จะคุ้นเคยกับผำเป็นอย่างดี
เพราะนิยมนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร นานนับร้อยปีแล้ว
เมนูยอดฮิตก็อย่างเช่น คั่วผำ ที่นำผำมาใส่พริกป่น ข้าวคั่ว และปรุงรสคล้าย ๆ ลาบ หรือไข่เจียวผำ เป็นต้น
โดยผลการวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 พบว่า ผำมีสารอาหารสูง และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ เช่น
-ให้โปรตีนสูงกว่าถั่วเหลืองเกือบ 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน
-ไฟเบอร์สูง ย่อยง่าย ดีต่อระบบย่อยอาหาร
-มีแคลอรี แป้ง น้ำตาล และไขมันต่ำ
-มีวิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ซึ่งหาได้ยากในพืชตามธรรมชาติ
-มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน และอุดมด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น เหล็ก แคลเซียม สังกะสี
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณสมบัติของผำ ยังเป็นดาวเด่นในด้าน “สิ่งแวดล้อม” อีกด้วย
เพราะพวกมันสามารถช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับป่าที่อุดมสมบูรณ์ ที่มีพื้นที่ขนาดเท่า ๆ กัน
นอกจากนี้ ผำยังเติบโตง่าย ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงทำให้ ผำ ถูกคาดหวังให้เป็น “อาหารแห่งอนาคต”
ซึ่งปัจจุบัน หลายประเทศกำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารของโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทำให้ ผำ เริ่มถูกหยิบมาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจมากขึ้น
อย่างเช่น
การทำฟาร์มเพาะเลี้ยงผำ
ซึ่งอาจกลายเป็น ทั้งความหวังใหม่ของเกษตรกร และช่วยลดการปนเปื้อน ที่อาจมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
สำหรับในปัจจุบัน ผำมีราคาเฉลี่ยประมาณ 150-200 บาทต่อกิโลกรัม
โดยมีจำหน่ายทั้งแบบสด แบบแช่แข็ง และแบบแห้ง (Freeze Dry) สำหรับนำไปประกอบอาหาร ที่ทำได้ทั้งอาหารคาวเมนูต่าง ๆ แทนผักชนิดอื่น
นอกจากนี้ ผำยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร Plant Based หรือแม้แต่นำไปเป็นส่วนประกอบของขนม อย่าง คุกกี้ เค้ก ไอศกรีม และสมูทที ก็ทำได้เช่นกัน
แล้ว ผำ มีโอกาสเติบโตแค่ไหนในเชิงธุรกิจ ?
ธุรกิจที่เห็นโอกาส เริ่มหยิบวุลฟ์เฟียขึ้นมาใช้ในเชิงธุรกิจ และใช้เทคโนโลยีพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว
เช่น
-Biovolf บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ จากสิงคโปร์ ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยี สำหรับปลูกผำในเครื่องที่สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการเติบโตของผำ ทำให้ประหยัดพื้นที่ และยังช่วยให้การเพาะปลูกรวดเร็วขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ที่อาหารอาจไม่เพียงพอต่อประชากรโลก
-Advanced GreenFarm และ Flo ธุรกิจฟาร์มผำในประเทศไทย ที่จำหน่ายผำแบบสด, แบบผง และแบบแช่แข็ง
-Thai Coconut บริษัทระดับมหาชนของไทย ก็มีการผลิตสินค้าเป็น “ผำแช่แข็ง” จนคว้ารางวัล “Sial Innovation” ระดับ Silver จากเวทีแสดงสินค้าโลก Sial 2022 ที่ประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนี้ ยังเริ่มเห็นธุรกิจในไทยที่จับเอาวุลฟ์เฟียมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างเช่น
บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ที่ออกผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารจากผำ ภายใต้แบรนด์ สุภาพโอสถ
Absolute Plant แบรนด์ Plant Based น้องใหม่ ที่ออกผลิตภัณฑ์หมูจากพืช ผสมวุลฟ์เฟีย ออกจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
ด้วยคุณประโยชน์ที่ค้นพบ และการผลักดันในเชิงธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นที่น่าจับตาว่า ในอนาคต เราจะได้เห็นธุรกิจที่ใช้ผำมาผลิตสินค้าอะไรใหม่ ๆ อีกบ้าง
แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ ประเทศไทยเองถือว่ามีความพร้อมมากกว่าหลาย ๆ ประเทศ ทั้งสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกผำ และภูมิปัญญาในการนำผำมาปรุงอาหารที่มีมาอย่างยาวนาน
ดังนั้น หากผำกลายมาเป็นแหล่งอาหารสำคัญในอนาคตขึ้นมาจริง ๆ ประเทศไทย ก็น่าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว..
-----------------------------------------------------------------
(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
-----------------------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.