Beanbag x ลงทุนเกิร์ล

ใครว่าอาหารเฮลตี้ต้องดูเรียบง่าย และชูจุดขายได้แค่เรื่องสรรพคุณสินค้า
ตอนนี้อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่

เพราะปัจจุบัน มีสินค้าที่ทั้งเก๋ เท่ อร่อย และดีต่อสุขภาพ มัดรวมในชิ้นเดียว
แถมยังเป็นผู้นำตลาด Health & Wellness ในบ้านเรา
ซึ่งกำลังครองใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Millennials นั่นคือ แบรนด์ “Beanbag (บีนแบ็ก)”

แบรนด์ของคนไทยที่มีภาพลักษณ์ทัดเทียมกับแบรนด์อินเตอร์
เป็นที่รู้จักจาก โปรตีนพืชจากอัลมอนด์ แบรนด์แรกในเอเชีย
สามารถทำยอดขายไปกว่า 50,000 กระปุก ภายใน 7 เดือนแรกที่เปิดตัว
อีกทั้งสร้างยอดขายทะลุ 7 หลัก ในวัน D-DAY ของทุกแพลตฟอร์ม

โดยหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ก็คือ
คุณเบ๊น-ณิชาภัทร ศรีมโนธรรม ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Beanbag

เส้นทางของ Beanbag น่าสนใจอย่างไร ?
แล้วอะไรคือสูตรลับความสำเร็จของคุณเบ๊น ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Beanbag ก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่ปี 2558
โดยคุณเบ๊น-ณิชาภัทร ศรีมโนธรรม และคุณภูริต ศรีมโนธรรม

คุณเบ๊นเล่าว่า เธอโตมาในครอบครัวคนรักสุขภาพ จึงคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์นี้และอินกับเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว

บวกกับความตั้งใจที่จะดิสรัปต์วงการอาหารสุขภาพ ยกระดับภาพรวมตลาดให้มีสีสัน อยากทำให้การกินอาหารที่ดีต่อร่างกายไม่ใช่เรื่องยากหรือน่าเบื่ออีกต่อไป และอยากให้คนรุ่นใหม่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น

เธอจึงดึงความชอบส่วนตัวในเรื่องแฟชั่น, ดิไซน์ และศิลปะ มาสร้างสินค้าที่ทั้งทันสมัย, อร่อย และมีคุณค่าทางอาหารสูง

จากนั้น Beanbag ก็เริ่มต้นธุรกิจด้วยการวางขาย สินค้าซูเปอร์ฟูดและออร์แกนิกมิกซ์นัท
รวมถึงเป็นซัปพลายเชนของบริษัทรายใหญ่อีกหลายแบรนด์ ในเวลาต่อมา

แต่ผลงานที่โดดเด่นจนเป็นที่กล่าวขาน คือ การเปิดตัวนวัตกรรมโปรตีนพืชจากอัลมอนด์ ได้เป็นแบรนด์แรกในเอเชีย หลังจากที่ Beanbag ใช้เวลาพัฒนาเกือบ 3 ปี

ทำไมถึงต้องเป็นโปรตีนพืชจากอัลมอนด์ ?

เนื่องจากอัลมอนด์มีไขมันดี ช่วยบำรุงระบบประสาท ลดโอกาสเกิดอัลไซเมอร์ บำรุงผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ให้สุขภาพดี
ที่สำคัญอัลมอนด์ยังเป็นตัวช่วยรู้ใจของคนลดน้ำหนัก เพราะมีโปรตีนและไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน

แล้วสงสัยหรือไม่ว่า Beanbag มีวิธีเอาชนะใจผู้บริโภคได้อย่างไร ?
คำตอบก็มีหลายเหตุผล

1. เริ่มต้นจากการผลิตสินค้าคุณภาพสูง

Beanbag มองว่าอาหารที่อร่อย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก
โดยถือคติว่าคุณภาพต้องมาก่อน ส่วนต้นทุนสินค้าเป็นเรื่องรอง

วัตถุดิบที่แบรนด์เลือกใช้ จึงมาจากแหล่งต้นกำเนิดจริง ๆ ดีลโดยตรงกับผู้ผลิตและไม่ผ่านคนกลาง เพื่อให้มั่นใจว่าได้ของตามสเป็ก และใช้การขนส่งทางเครื่องบิน เพื่อคงคุณประโยชน์และคงความสดใหม่

ตัวอย่างเช่น วัตถุดิบหลักอย่าง “อัลมอนด์” ที่ใช้ ก็เป็นอัลมอนด์ออร์แกนิก นำเข้าจากประเทศสเปน มีรสชาติหอม หวาน มัน ที่มีโปรตีนสูงมาก และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ยังคงไขมันดีในปริมาณสูงเอาไว้

รวมถึงส่วนผสมต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นของดีจากหลากหลายประเทศ

แม้กระทั่งแต่ละรสชาติของ Beanbag ก็ผ่านการทดลองสูตรมาแล้วเป็นร้อย ๆ ครั้ง
เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะออกมาถูกปากและถูกใจผู้บริโภคที่สุด

2. สร้าง Branding ที่เป็นเอกลักษณ์

อีกหนึ่งจุดแข็งที่มองข้ามไม่ได้ของ Beanbag ก็คือ แพ็กเกจจิงอันเป็นเอกลักษณ์ ต่างจากแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด จนหลาย ๆ คน อาจเข้าใจว่า Beanbag คือแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ

เรื่องนี้เกิดจาก คุณเบ๊นมีความชื่นชอบในเรื่องดิไซน์, แฟชั่น และศิลปะ เป็นทุนเดิม
จึงนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างตัวตนสินค้า โดยแบรนด์มองว่าสินค้าทุกตัวเหมือนเป็นงานศิลปะชั้นดีชิ้นหนึ่ง
ทำให้สินค้าแต่ละตัวก็จะมีแครักเตอร์ที่ชัดเจนและไม่เหมือนกัน

หรือพูดง่าย ๆ ว่า Beanbag สร้างแบรนด์ให้น่าจดจำด้วยวิธีที่แตกต่าง
อย่างที่แทบจะไม่เห็นการนำแฟชั่นหรือศิลปะ มาประยุกต์ในสินค้าอาหารสุขภาพกันนัก

3. ทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า

นอกจาก Beanbag จะเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
จากคุณสมบัติของตัวผลิตภัณฑ์, ความแตกต่าง และความคิดสร้างสรรค์แล้ว

Beanbag ยังต้องการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารักมากที่สุด (Brand Love)
และเป็นแบรนด์ที่ใช่ที่สุดสำหรับกลุ่มลูกค้า

ดังนั้น Beanbag จึงใช้ “แพสชัน” เป็นกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนแบรนด์

ด้วยการเชื่อว่าหากเราเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้เอง
ในมุมที่เป็นผู้ผลิต ทุกอย่างที่เลือก ก็จะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดเหมือนเลือกให้ตัวเอง
คอยอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ เพราะเราหลงใหลในสิ่งที่ทำ

ในมุมที่เป็นผู้บริโภค ก็จะเข้าใจปัญหา ความต้องการของลูกค้า และสามารถพัฒนาสินค้าที่ถูกใจและตอบโจทย์พวกเขาได้

ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้ลูกค้าสัมผัสถึงความรักและความตั้งใจที่แบรนด์มอบให้กับพวกเขา (Brand Promise)

นอกจากนี้ในไลน์สินค้าตัวใหม่อย่าง Beauty Protein ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนนี้
Beanbag ก็มีแบรนด์พาร์ตเนอร์คนดังอย่าง คุณแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ มาเป็นกระบอกเสียงให้กับแบรนด์ ช่วยสื่อสารกับกลุ่ม Millennials ชัดเจนมากขึ้น

เน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่มีเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสายคลีนหรือสายออกกำลังกาย แต่ก็ยังต้องการดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ

อีกทั้ง Beanbag ยังสร้างประสบการณ์และความรู้สึกร่วมกับแบรนด์ ด้วยการใช้กลยุทธ์ Music Marketing ผ่านเพลง Shake Shake (Sad aerobic remix) - [By Beanbag] ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยใช้เพลงฮิตติดหูมาเปลี่ยนเนื้อร้องให้เข้ากับแบรนด์ เพื่อเป็นสื่อกลาง สร้างการรับรู้ การจดจำในแบรนด์

แถมยังสร้างความรู้สึกว่าการดูแลตัวเองนั้น ง่ายและสนุก
ไม่ต้องยึดติดกับการกินคลีนหรือออกกำลังกายหนักเท่านั้น
แค่การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และขยับร่างกายในแต่ละวัน ก็คือการเริ่มต้นดูแลสุขภาพแล้ว

เรียกได้ว่า Beanbag เป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่สินค้า แต่เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ของชาว Millennials
ที่ตอกย้ำภาพแบรนด์ที่เน้นสร้างความแตกต่าง และความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง

4. เพิ่มความหลากหลายให้สินค้า

จะเห็นว่า ปัจจุบัน Beanbag มีผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และรสชาติอร่อยหลากหลายชนิด เช่น

- ผงซูเปอร์ฟูด

ผงผักและผลไม้ 100% ถูกนำมา Freeze Dried เพื่อคงคุณค่าสารอาหาร และบดให้อยู่ในรูปแบบผงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน โดยต้องใช้ผัก ผลไม้ จำนวน 10-20 กก. เพื่อแปรรูปเป็นผงเพียง 1 กก. ที่ผ่านการคัดสรรจากผักหรือผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูงจากแหล่งต้นกำเนิด ช่วยเสริมสร้างระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยบำรุงผิว ชะลอเซลล์, กระตุ้นระบบขับถ่าย, เพิ่มพลังงาน และบำรุงสมอง

- อัลมอนด์โปรตีน

เครื่องดื่มโปรตีนพืชจากอัลมอนด์ ปลูกในฟาร์มออร์แกนิกจากสเปน
ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกอัลมอนด์ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลก ใช้เทคโนโลยีเฉพาะเพื่อดึงโปรตีนออกมาให้ได้มากที่สุด และยังควบคุมอุณหภูมิและออกซิเจนเพื่อคงคุณค่าสารอาหารให้คงอยู่มากที่สุด

มีแคลเซียมสูงเทียบเท่านม 1 แก้ว มีวิตามินครบ 13 ชนิด มีน้ำมันเอ็มซีทีและพรีไบโอติกส์ ไม่มีน้ำตาล
มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ เช่น รส Dark Chocolate ที่ใช้ผงช็อกโกแลตแท้จากประเทศเบลเยียม และรส Acai Mixed Berries ที่ใช้ผง Acai berry organic USDA

- บิวตี้โปรตีน

สินค้าตัวใหม่ล่าสุดจาก Beanbag ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีน ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณ เสริมความแข็งแรงให้ผมและเล็บ ภายในกระปุกเดียว

ด้วยการรวมโปรตีนพืช, คอลลาเจนไดเพปไทด์เข้มข้น, Superfoods, Prebiotics, วิตามิน A C E และอาหารผิวกว่า 17 ชนิด

มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ได้แก่ รสอูจิมัทฉะ, รสราสป์เบอร์รีลิ้นจี่ และรสดริงกิงโยเกิร์ต

โดยทั้ง 3 รสชาติ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง, นม, เนย, ไข่, สารปรุงแต่งสังเคราะห์ และไม่มีส่วนผสมของกลูเทน ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าหรือติดตามรายละเอียดข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม คลิก
Line: @beanbagsuperfood | https://lin.ee/3I9KSt7
Facebook/Instagram: @beanbagsuperfood | https://www.facebook.com/beanbagsuperfood / https://www.instagram.com/beanbagsuperfood/
Shopee: Beanbagsuperfood | https://shp.ee/uwc98pt
Lazada: Beanbagsuperfood-Official | https://s.lazada.co.th/l.0xRY