ทำไม “เซเลอร์มูน” ถึงครองใจผู้ชม ไม่เสื่อมคลาย / โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อไม่นานมานี้สตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix ประกาศว่าจะนำ Pretty Guardian หรือเซเลอร์มูน Eternal The Movie ทั้งภาค 1 และภาค 2 มาฉายให้คนทั้งโลกได้ชมพร้อมกัน ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้

เรื่องนี้คงทำให้หลาย ๆ คนอดนึกถึงความทรงจำวัยหวาน 
ที่อยากมีคทาแปลงร่างไปปราบเหล่าวายร้าย กับเหล่าอัศวินเซเลอร์ไม่ได้

และทำให้เห็นภาพของสาวน้อย ทรงผมซาลาเปาคู่ ในชุดอัศวินเซเลอร์ ที่มาพร้อมกับประโยคฮิตติดหู

“ฉันคือสาวน้อยน่ารัก ผู้พิทักษ์ความรักและความยุติธรรม 
เซเลอร์มูน ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง!” 

อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่เป็นแฟนเซเลอร์มูน คงยิ้มตามได้ไม่ยาก

แต่ใครที่ไม่อิน​ หรือเกิดไม่ทันช่วง เซเลอร์มูน ฟีเวอร์ ไม่ต้องเสียใจ
ลงทุนเกิร์ล ขออาสาสวมบทตัวแทนแห่งดวงจันทร์ มาเล่าให้ฟังว่า 

เซเลอร์มูนมีที่มาอย่างไร ? ทำไมถึงกลายเป็นแอนิเมชันสุดฮอต ที่ไม่ได้ดังแค่ในระดับเอเชีย แต่ดังระดับโลก ?

โด่งดังจนถึงขั้นที่ Yuumi Kato มิสยูนิเวิร์สของญี่ปุ่น สวมชุดเซเลอร์มูน 
เป็นชุดประจำชาติบนเวทีประกวด Miss Universe 2018 ​​

เซเลอร์มูน เป็นผลงานจากปลายปากกาของคุณ Naoko Takeuchi นักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น

ได้รับการตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1991 หรือเมื่อ 30 ปีก่อน
ลงในนิตยสารนากาโยชิ ของสำนักพิมพ์โคดันฉะ ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น 
ก่อนจะมีการตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่ม จำนวน 18 เล่มจบ 

หลังจากตีพิมพ์ได้เพียง 1 ปี สตูดิโอ Toei Animation ก็ขอซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อนำไปดัดแปลงเป็นแอนิเมชัน และออกอากาศครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1992 
ก่อนที่โมเดิร์นไนน์การ์ตูน จะซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศในประเทศไทย​

เซเลอร์มูน เป็นเรื่องราวของ Tsukino Usagi เด็กสาวอายุ 14 ปี ที่เรียนไม่ดี กีฬาก็ไม่เก่ง แถมยังซุ่มซ่าม และงอแงในบางครั้ง​

แต่หลังจากได้พบกับ ลูน่า แมวดำที่มีจันทร์เสี้ยวบนหน้าผากโดยบังเอิญ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

เนื่องจากลูน่าได้มอบคทาวิเศษและเข็มกลัดวิเศษให้เธอ 
ทำให้เธอสามารถแปลงร่างเป็นเซเลอร์มูน 
เพื่อไปต่อสู้กับเหล่าร้าย ร่วมกับอัศวินเซเลอร์คนอื่น ๆ เพื่อรักษาความสงบของโลก

แม้บางคนอาจจะมองว่า พล็อตเรื่องนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการ์ตูนทั่วไป 
ทำไมผลิตออกมาเป็นแอนิเมชันที่มีหลายภาค ความยาวหลายร้อยตอน 
แต่ไม่ว่าจะสร้างออกมากี่ครั้ง ก็ยังมีคนดูอยู่ไม่น้อย

ซึ่งถ้าลองมองดี ๆ จะพบว่า มีหลายอย่างที่ทำให้เซเลอร์มูน 
แตกต่างจากการ์ตูนเรื่องอื่น ๆ

อันดับแรก คือ เนื้อหาที่แปลกใหม่ เพราะถึงพล็อตเรื่องจะเป็นแนวต่อสู้ก็จริง 
แต่เซเลอร์มูนมีการผสมผสานกลิ่นอายความโรแมนติกตามสไตล์การ์ตูนผู้หญิง เข้ากับเรื่องราวที่ชวนตื่นเต้นในการต่อสู้กับเหล่าวายร้ายได้อย่างลงตัว ชวนให้ติดตาม

และยังถือเป็นมิติใหม่ของวงการก็ว่าได้ ที่ตัวเอกเป็นผู้หญิง
เพราะในสมัยก่อน ตัวเอกที่ออกมาโชว์ลีลาปราบวายร้าย มักจะเป็นผู้ชาย 

แต่ตัวเอกในเซเลอร์มูน กลับเป็นเด็กผู้หญิง 
ที่เหมือนจะอ่อนแอ แต่พอแปลงร่างเป็นอัศวินเซเลอร์แล้ว 
กลับเข้มแข็ง​ กล้าต่อกรกับเหล่าวายร้าย โดยไม่จำเป็นต้องง้อผู้ชาย 

ด้วยจุดเด่นนี้เอง ทำให้เซเลอร์มูน ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กผู้หญิง 
ลำพังหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มทั้ง 18 เล่ม ก็มียอดขายทั่วโลก อยู่ที่ 35 ล้านเล่ม

นอกจากพล็อตเรื่อง แครักเตอร์​ตัวละครก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักเซเลอร์มูน

โดยเราจะเห็นได้ว่า อัศวินเซเลอร์แต่ละคน จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน 
มีตั้งแต่สาวเนิร์ด สาวห้าว สาวหวาน ไปจนถึงอัศวินเซเลอร์ที่เป็น LGBT ก็มี 

ซึ่งความหลากหลายของตัวละครนี้เอง เมื่อมาอยู่รวมกันแล้ว 
ทำให้เรื่องราวสมจริง และสนุกยิ่งขึ้น 

ที่สำคัญ การหยิบเอาชื่อของดาวเคราะห์ มาเป็นชื่อของอัศวินเซเลอร์แต่ละคน 
เพื่อสื่อว่า เป็นตัวแทนมาจากดวงดาวต่าง ๆ ที่มีภารกิจร่วมกันปกป้องโลก 

นอกจากจะทำให้ผู้ชมอย่างเราจดจำชื่อดาวเคราะห์ทุกดวงได้แบบไม่รู้ตัวแล้ว
ยังทำให้เนื้อหามีความเป็นสากล ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ๆ ดูแล้วก็เข้าใจ และอินตามไปด้วย

สุดท้ายคือ เรื่องแฟชั่นการแต่งกาย 
เพราะจริง ๆ แล้วเบื้องหลังชุดสวย ๆ ที่ตัวละครในเซเลอร์มูนสวมใส่ 

บางส่วนก็ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานของแบรนด์ดังระดับโลก 
อาทิ Yves Saint Laurent, Dior, Mugler, Chanel, Christian Lacroix 

เพราะฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมบางชุดของตัวละคร
ถึงดูดี และมีกลิ่นอายของแฟชั่นชั้นสูงแบบโอตกูตูร์ 

ซึ่งด้วยส่วนผสมที่ลงตัวทั้งหมดนี้เอง จึงเป็นสาเหตุที่ว่า
ทำไมเซเลอร์มูน ถึงกลายเป็นการ์ตูนที่ไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของแฟน ๆ

ที่สำคัญ ยังมีแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ หมุนเวียนมา Collaboration ด้วยไม่ขาดสาย ยกตัวอย่างเช่น

- Skechers แบรนด์รองเท้ากีฬาและไลฟ์สไตล์ชั้นนำสัญชาติอเมริกัน เปิดตัวคอลเลกชัน Skechers X Sailor Moon นำแครักเตอร์ของเหล่าอัศวินเซเลอร์มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ 

- SPAO แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากเกาหลีใต้ ส่งไอเทม Moon Crystal Power Exclusive Collection มีทั้งเสื้อยืด กระโปรง และกระเป๋าเป้ มาเอาใจสาวกเซเลอร์มูน

- Shiseido แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง ฉลอง 25 ปี เซเลอร์มูน ด้วยการออกคอลเลกชันพิเศษ Sailor Moon x Shiseido MAQuillAGE ประกอบด้วยตลับแป้งและรองพื้น ให้ผู้ใช้เติมสวย ราวกับได้แปลงร่างเป็นตัวแทนแห่งดวงจันทร์​

- O&B แบรนด์รองเท้าสัญชาติไทย ก็ไม่น้อยหน้า เรียกเสียงฮือฮาด้วย คอลเลกชัน Audrey Sailor Moon ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จากญี่ปุ่น 

- ColourPop แบรนด์เครื่องสำอางจากฝั่งอเมริกา ที่ต่อให้เจอโควิด 19 แต่กระแสตอบรับคอลเลกชันพิเศษที่ไปร่วมกับ Sailor Moon ออกสินค้าพาเลตต์ตา ลิปกลอส บอดีกลิตเตอร์ และบลัชออน ก็ยังขายดี หมดเกลี้ยงภายในไม่กี่วินาที จนต่อให้ผลิตเพิ่ม ก็ยังขายหมดในเวลาไม่นาน​

แน่นอนว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้เซเลอร์มูน ยังเนื้อหอมไม่เสื่อมคลาย 
ก็เพราะมั่นใจว่า ถ้าตัวแทนแห่งดวงจันทร์ร่ายมนตร์เมื่อไร
แฟน ๆ ก็ยากจะอดใจไหว และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอยู่เสมอ

และนี่ก็อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ แม้แต่ Netflix 
ก็ยังเลือกหยิบแอนิเมชันอย่าง เซเลอร์มูน กลับมาฉายอีกครั้ง

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ 

รู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ผู้ที่ถือลิขสิทธิ์ของเซเลอร์มูน ไม่ใช่ สตูดิโอ Toei Animation แล้ว
แต่เป็นสตูดิโอที่ชื่อว่า Princess Naoko Planning (PNP) 
ซึ่งเจ้าของก็คือ คุณ Naoko Takeuchi ผู้สร้างตำนานเซเลอร์มูน นั่นเอง..

References:
-https://th.wikipedia.org/…/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B…
-https://sailorsuitedsoldiers.jimdofree.com/…/naoko-takeuchi/
-https://praew.com/fashion/271424.html
-https://www.teenvogue.com/…/brief-history-of-sailor-moon-fa…